สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com
JavaScript เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งที่ดึงดูดนักพัฒนาจำนวนมากด้วยความยืดหยุ่นและการกระจายตัวของภาษาที่สามารถใช้ได้ทั้งใน Front-end และ Back-end เมื่อเรื่องของ Object-Oriented Programming (OOP) ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย เข้ามาผสมผสานกับ JavaScript จึงเป็นที่สำคัญที่ Developer ควรต้องเรียนรู้และจดจำเคล็ดลับบางประการเพื่อเขียนโค้ดที่ไม่เพียงแต่ทำงานได้ดี แต่ยังต้องอ่านและบำรุงรักษาง่ายด้วย
ใน JavaScript, แนวคิดของ prototype เป็นพื้นฐานสำคัญของ OOP ทุก object แบ่งปัน properties และ methods ผ่าน prototype chain. เมื่อ developer เข้าใจหลักการทำงานของ prototypes จะสามารถใช้พวกมันเพื่อสืบทอดคุณสมบัติไปยัง objects อื่นได้.
function Person(firstName, lastName) {
this.firstName = firstName;
this.lastName = lastName;
}
Person.prototype.fullName = function() {
return `${this.firstName} ${this.lastName}`;
};
const developer = new Person('Jane', 'Doe');
console.log(developer.fullName()); // Outputs: Jane Doe
ในตัวอย่างข้างต้น `fullName` method ถูกสืบทอดจาก `Person` prototype ไปยัง `developer` instance.
แม้ว่า JavaScript จะไม่มี class ในอดีต แต่ ES6 ได้นำ syntax ที่คล้ายคลึงกับ class-based languages มาใช้. การใช้ class ช่วยให้โค้ดอ่านง่ายขึ้นและชัดเจนมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ function constructors และการจัดการ prototypes แบบดั้งเดิม.
class Person {
constructor(firstName, lastName) {
this.firstName = firstName;
this.lastName = lastName;
}
fullName() {
return `${this.firstName} ${this.lastName}`;
}
}
const developer = new Person('John', 'Smith');
console.log(developer.fullName()); // Outputs: John Smith
Encapsulation เป็นหลักการที่ไม่อนุญาตให้เข้าถึง state ของ object โดยตรงจากภายนอก แต่จะผ่าน methods ที่ define ไว้เพื่อจัดการ state นั้น. ใน JavaScript สามารถใช้ closure หรือ fields ที่เป็น private เพื่อ encapsulate data.
class Person {
#age = 0; // private field
constructor(name, age) {
this.name = name;
this.#age = age;
}
getAge() {
return this.#age;
}
}
const developer = new Person('Lisa', 28);
console.log(developer.getAge()); // Outputs: 28
// console.log(developer.#age); // Error: Private field '#age' must be declared in an enclosing class
Private field ในตัวอย่างนี้เป็นการใช้งาน Encapsulation ใน JavaScript.
Polymorphism เป็นความสามารถของ object ที่สามารถมี forms หรือ methods ที่แตกต่างกันได้ แม้ว่าจะแชร์ interface เดียวกัน. JavaScript ใช้วิธี duck typing ดังนั้น polymorphism จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติ.
class Animal {
speak() {
console.log('The animal makes a sound.');
}
}
class Dog extends Animal {
speak() {
console.log('The dog barks.');
}
}
const pet = new Dog();
pet.speak(); // Outputs: The dog barks.
Inheritance อาจนำไปสู่โครงสร้างที่ซับซ้อนและ rigid ได้ การใช้ Composition แทนการจดจำไว้ว่า "has a" แทนที่ "is a" ในการออกแบบ classes สามารถทำให้โค้ดของคุณมีความยืดหยุ่นและก่อให้เกิด coupling ที่น้อยลง.
class Engine {
start() {
console.log('Engine starts!');
}
}
class Car {
constructor(engine) {
this.engine = engine;
}
start() {
this.engine.start();
}
}
const engine = new Engine();
const car = new Car(engine);
car.start(); // Outputs: Engine starts!
การเข้าใจเคล็ดลับเหล่านี้ของ JavaScript OOP จะช่วยให้คุณเขียนโค้ดที่มีโครงสร้างเป็นระเบียบและคงทนต่อการเปลี่ยนแปลงได้. เป็นการลงทุนความเข้าใจที่คุ้มค่าสำหรับการพัฒนาต่อไปในอนาคต.
จำไว้ว่าการสร้างซอฟต์แวร์มิใช่แค่ศิลปะแต่คือศาสตร์ที่ต้องมาพร้อมกับการใช้เทคนิคและปรัชญาที่ถูกต้อง และหากคุณต้องการพัฒนาทักษะในการเขียนโปรแกรมของคุณให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น, เรียนรู้อย่างจริงจังเพื่อความสำเร็จในอาชีพ developer ของคุณ, การศึกษาที่ EPT อาจเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญสำหรับคุณ.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: javascript oop prototypes class_syntax encapsulation private_fields polymorphism composition inheritance es6 duck_typing methods objects programming development
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com