ก่อนที่เราจะพูดถึง Back-end Technologies ขอให้เราเริ่มที่พื้นฐาน ซึ่งก็คือคำถามง่ายๆ ว่า Back-end คืออะไร? ในโลกของการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน หรือแม้แต่ซอฟต์แวร์ทั่วไป Back-end หมายถึงส่วนที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ไม่ต้องสื่อสารโดยตรงกับผู้ใช้งาน (user) แต่กลับเป็นส่วนสำคัญที่จัดการกับฐานข้อมูล (database), การคำนวณ (logic), และการทำงานร่วมกันของระบบ (system integration) เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นหัวใจสำคัญที่คอยขับเคลื่อนให้เว็บแอปพลิเคชันทำงานได้อย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เรามาเทียบกับ Front-end ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้ใช้สามารถมองเห็นได้โดยตรง เช่น User Interface (UI) ที่รวมถึงการออกแบบกราฟิก, การจัดวางข้อมูลบนหน้าเว็บหรือแอป และการสื่อสารกับผู้ใช้งาน ในขณะที่ Back-end ไม่มีส่วนที่มองเห็นได้ชัดเจนแต่ก็สำคัญไม่แพ้กัน
การพูดถึงเทคโนโลยีของ Back-end ไม่สามารถจะพูดกันให้หมดได้ในทีเดียว เพราะมีมากมายหลายประเภทและหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น:
- ภาษาโปรแกรมมิ่ง เช่น Python, PHP, Java, Ruby, Go, Node.js และอีกมากมาย
- เฟรมเวิร์ก เช่น Django (สำหรับ Python), Laravel (สำหรับ PHP), Spring (สำหรับ Java)
- ระบบฐานข้อมูล เช่น MySQL, PostgreSQL, MongoDB, Redis
- เซิร์ฟเวอร์ เช่น Apache, Nginx, Microsoft IIS
- ระบบการจัดการคอนเทนท์ (Content Management System - CMS) เช่น WordPress, Drupal
แต่ละเทคโนโลยีมีคุณสมบัติและวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งการเลือกใช้งานอยู่ที่ความต้องการของโปรเจกต์และความชำนาญของนักพัฒนา
เมื่อพูดถึงประโยชน์ของ Back-end Technologies สิ่งเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในหลายๆ ด้าน ดังนี้:
1. การเก็บข้อมูล: ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สำคัญที่สุดของ Back-end การจะเก็บข้อมูลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลผู้ใช้งาน, ข้อมูลสินค้า, หรือแม้กระทั่งการตั้งค่าของแอปพลิเคชันต่างๆ ทำให้เว็บหรือโปรแกรมของเรามีความสามารถในการทำงานต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
2. การประมวลผลและคำนวณ: โดยการคำนวณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณค่าใช้จ่าย, อัตราต่อรอง, สถิติต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถทำการวิเคราะห์และเข้าใจข้อมูลได้ดีขึ้น
3. การรักษาความปลอดภัย: เทคโนโลยีด้าน Back-end มีบทบาทในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งการป้องกันไม่ให้มีการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต และการเข้ารหัสข้อมูล LEDs
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM