ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ เอไอ (AI) หมายถึง ความ ฉลาดเทียมที่สร้างขึ้นให้กับสิ่งไม่มีชีวิต เป็นสาขาหนึ่งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรม เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการการคิด การกระทำ การให้เหตุ ผล การปรับตัวหรือการอนุมานและการทำงานของสมอง แต่แนวคิดหลายๆอย่าง ในศาสตร์นี้ได้มาจากการปรับปรุง เพิ่มเติมจากศาสตร์อื่นๆ เช่น
นิยามของปัญญาประดิษฐ์
แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ
ปัจจุบันงานวิจัยหลักๆของ AI มีแนวคิดที่เน้นเหตุผลเป็นหลัก เพราะการ นำ AI ไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหา ไม่จำเป็นต้องใช้อารมณ์ ความรู้สึกแต่นิยามทั้ง 4 อย่างนี้ไม่ได้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ยังคงมีส่วนที่คาบเกี่ยวกันอยู่ อธิบายได้ดังนี้
1.ระบบที่คิดเหมือนมนุษย์ (Systems that think like humans)
โดยนิยามนี้ได้ให้คำจำกัดความของปัญญาประดิษฐ์ว่า
หมายเหตุ : แต่ก่อนจะทำให้เครื่องคิดเหมือนมนุษย์ได้ต้องรู้ก่อนว่ามนุษย์คิดยังไง แต่ปัจจุบันยังไม่รู้แน่ชัด
2. ระบบที่กระทำเหมือนมนุษย์ (Systems that act like humans)
โดยนิยามนี้ได้ให้คำจำกัดความของปัญญาประดิษฐ์ว่า
หมายเหตุ : การกระทำเหมือนมนุษย์ เช่น การใช้ภาษา ประสาทรับสัมผัส การเคลื่อนไหว การเรียนรู้และการปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
3. ระบบที่คิดอย่างมีเหตุผล (Systems that think rationally)
โดยนิยามนี้ได้ให้คำจำกัดความของปัญญาประดิษฐ์ว่า
หมายเหตุ : คิดอย่างมีเหตุผลหรือคิดอย่างถูกต้อง อาจใช้หลักตรรกศาสตร์ช่วย
4. ระบบที่กระทำอย่างมีเหตุผล (Systems that act rationally)
โดยนิยามนี้ได้ให้คำจำกัดความของปัญญาประดิษฐ์ว่า
*เอเจนต์ คือ โปรแกรมที่มีความสามารถในการกระทำหรือเป็นตัวแทนในระบบอัตโนมัติต่างๆ ซึ่งสามารถกระทำอย่างมีเหตุผลเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น เอเจนต์ในเกมหมากรุก ที่มีเป้าหมายว่าต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ ก็ต้องเลือกเดินหมาก ที่จะทำให้คู่ต่อสู้แพ้ให้ได้ เป็นต้น
สาขาที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์
ภาษาที่ใช้ในปัญญาประดิษฐ์
นักวิจัยได้พัฒนาภาษาพิเศษสำหรับงานวิจัย เช่น ภาษาลิสป์และ ภาษาโปรล็อก
ลักษณะงานของปัญญาประดิษฐ์
1. Cognitive Science
เน้นงานวิจัยเพื่อศึกษาว่าสมองของมนุษย์ทำงาน คิดและเรียนรู้อย่างไร มีพื้นฐานที่การประมวลผลสารสนเทศในรูปแบบของมนุษย์ประกอบด้วยระบบต่างๆ ดังนี้
2. Roboics
ใช้พื้นฐานของวิศวกรรมและสรีระศาสตร์ เพื่อสร้างหุ่นยนต์ให้มีความ ฉลาดและถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์แต่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนมนุษย์
3. Natural Interface
ได้ชื่อว่าเป็นงานหลักที่สำคัญที่สุดของปัญญาประดิษฐ์และพัฒนาบนพื้น ฐานของภาษาศาสตร์ จิตวิทยา วิทยาการคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยงานด้านต่างๆ
ดังนี้
ระบบที่มีความสามารถในการเข้าใจภาษามนุษย์ (Natural Language)
ระบบภาพเสมือนจริง (Virtual Reality)
ระบบปัญญาประดิษฐ์แบบผสมผสาน (Hybrid AI Systems)
ตัวอย่าง AI
Terminator , Surrogates , iRobot หรือ Minority Report จะได้เห็นการ ทำงานของหุ่นยนต์ที่มีปัญญาที่คิดได้เองและสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ ทั้งดีและไม่ดี
สรุป
AI นั้นถูกเอามาใช้งานแทนมนุษย์หลายอย่าง เช่น ระบบ Call Center เพื่อลดการใช้แรงงานคนและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ในอนาคต AI สามารถแทนการทำงานที่ซับซ้อนของคนได้แน่นอน เช่น การวางแผนการทำ กลยุทธ์ทางการตลาด ดังนั้น การเรียนรู้ที่จะปรับตัวและเรียนรู้ที่จะใช้ AI ให้เกิด ประโยชน์นั้นจะมีความสำคัญมากต่อธุรกิจในอนาคตและทำให้ธุรกิจนั้นมีความได้เปรียบมากกว่า ปัจจุบันนี้ยังไม่มีทฤษฎีใดที่เป็นแนวทางที่ชัดเจนให้กับการวิจัยทาง ปัญญาประดิษฐ์ นักวิจัยบางคนก็ไม่เห็นด้วยกับบางเรื่อง ปัญหาที่ยังไม่มีคำตอบก็ ยังมีอยู่มากมาย
References :
https://en.wikipedia.org/wiki/Artificial_intelligence
https://sites.google.com/site/pattyloveloveit53/ngan-ni-hxngreiyn/artificial-intelligemce-ai
https://www.modify.in.th/17128
l.mahidol.ac.th
Tag ที่น่าสนใจ: artificial_intelligence ai machine_learning neural_network cognitive_science expert_systems robotics genetic_algorithm fuzzy_logic intelligent_agents learning_systems natural_interface
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM