“การเขียนโปรแกรมเชิงคณิตศาสตร์” เปลี่ยนเส้นทางได้ที่นี่ สำหรับวารสาร peer-reviewed ดูที่นี่ Mathematical Programming
“การหาค่าที่เหมาะสุด” และ “Optimum” เปลี่ยนเส้นทางได้ที่นี่ สำหรับการใช้งาน อื่นๆ ดูที่ Optimization (disambiguation) และ Optimum (disambiguation)
กราฟ paraboloid ได้ให้ z = f(x, y) = −(x² + y²) + 4. จุดสูงสุดของโค้งอยู่ที่
(x, y, z) = (0, 0, 4) ถูกชี้ให้เห็นโดยจุดสีฟ้า
Nelder-Mead การค้นหาที่น้อยที่สุดของ Simionescu's function จุดยอด Simplex ถูกเรียงลำดับโดยค่าของพวกมัน ที่ๆ 1 มีค่าต่ำที่สุด (ดีที่สุด)
ในทางคณิตศาสตร์ , วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และงานวิจัยการดำเนินการ , การ หาค่าที่เหมาะที่สุดทางคณิตศาสตร์หรือการเขียนโปรแกรมทางคณิตศาสตร์ เป็นการ เลือกสรรขององค์ประกอบที่ดีที่สุด (เกี่ยวกับเกณฑ์บางอย่าง) จากบางชุดของทาง เลือกที่มีอยู่
ในกรณีที่ง่ายที่สุด ปัญหาการหาค่าที่เหมาะที่สุดประกอบไปด้วยการเพิ่มหรือลด ฟังก์ชั่นจริงโดยการเลือกค่า input อย่างเป็นระบบจากภายในชุดที่อนุญาตและการ คำนวณค่าของฟังก์ชั่น ลักษณะทั่วไปของทฤษฎีการหาค่าที่เหมาะสุดและเทคนิค ไปยังสูตรอื่นๆถือว่าเป็นบริเวณใหญ่ของคณิตศาสตร์ประยุกต์ ให้เป็นปกติมากกว่านี้ การหาค่าเหมาะสุดยังรวมการหาค่า “ที่ดีที่สุดที่มีอยู่” ของฟังก์ชั่นวัตถุที่ให้ domain ที่ถูกกำหนด (หรือ input) รวมไปถึงความหลากหลายของชนิดที่แตกต่างกันของ ฟังก์ชั่นวัตถุและชนิดของ domains ที่แตกต่างกันออกไป
บทความหลัก : Optimization problem
ปัญหาการหาค่าเหมาะสุดถูกเป็นตัวแทนได้ในวิถีทางด้านล่างนี้ :
ให้ : ฟังก์ชั่น จาก set A ไปยังจำนวนจริง
ค้นหา : ตัว x0 ใน A ดังนั้น (การลด) หรือ ดังนั้น (การเพิ่ม)
สูตรนี้เรียกว่าปัญหาการหาค่าเหมาะสุดหรือปัญหาการเขียนโปรแกรมทาง คณิตศาสตร์ (ในแง่ที่ไม่ตรงมากนักเกี่ยวเนื่องกับ computer programming [การ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์] แต่ยังคงถูกใช้ในตัวอย่างใน linear programming [การเขียนโปรแกรมเส้นตรง]) หลายๆปัญหาในโลกจริงๆหรือปัญหาทางทฤษฎีอาจ จะเป็นต้นแบบใน framework ปกตินี้ ปัญหาจำลองโดยการใช้เทคนิคนี้ในสาขา ของฟิสิกส์และวิสัยทัศน์คอมพิวเตอร์อาจจะถูกอ้างถึงเทคนิคเป็น energy minimization (การลดพลังงาน) ซึ่งจะบอกค่าของฟังก์ชั่น f เป็นตัวแทนพลังงาน ของระบบที่ถูกทำเป็นต้นแบบ
โดยปกติแล้ว A เป็นสับเซ็ตของ Euclidean space Rn ซึ่งถูกระบุบ่อยครั้งโดยชุด ของข้อจำกัด , ความเท่าเทียมกันหรือความไม่เท่าเทียมกันที่สมาชิกของ A ต้องพอใจ โดเมน A ของ f ถูกเรียกว่า search space (พื้นที่ว่างการค้นหา) หรือ choice set (ชุดของตัวเลือก) ขณะที่ตัวต่างๆของ A ถูกเรียกว่า candidate solutions (การแก้ปัญหาผู้เข้าร่วม) หรือ feasible solutions (การแก้ไขปัญหาที่ เป็นไปได้)
ฟังก์ชั่น f ถูกเรียกอย่างหลากหลายว่า objective function (ฟังก์ชั่นเป้าหมาย) ,loss function (ฟังก์ชั่นการสูญเสีย) หรือ cost function (ฟังก์ชั่นค่าใช้จ่าย) (การลด) , utility function (ฟังก์ชั่นสารประโยชน์) หรือ fitness function (การเพิ่ม) หรือในบางสาขา คือ energy function (ฟังก์ชั่นพลังงาน) หรือ energy functional (การทำงานของพลังงาน) การแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ที่ลด (หรือลด ถ้ามันคือเป้าหมาย) ฟังก์ชั่นเป้าหมายที่เรียกว่า optimal solution (การแก้ปัญหาที่ดี ที่สุด)
ในทางคณิตศาสตร์ ปัญหาการหาค่าเหมาะสุดแบบดั้งเดิมมักถูกระบุอยู่ในแง่ของ การลดเป็นปกติ เว้นแต่ทั้งฟังก์ชั่นเป้าหมายและบริเวณที่เป็นไปได้ (feasible region) เป็นconvex ในปัญหาการลด พวกมันอาจจะเป็น minima ท้องที่หลายๆอัน
local minimum x* ถูกกำหนดให้เป็นจุดที่มีบาง δ> 0 ดังนั้น สำหรับ x ทั้งหมด ที่ๆ
นิพจน์
รองรับ; นั่นคือสิ่งที่จะพูดถึง บางบริเวณรอบๆ x* ค่าของฟังก์ชั่นทั้งหมดมากกว่า หรือเท่ากับค่าที่จุดนั้น Maxima ท้องถิ่นถูกกำหนดในลักษณะที่คล้ายกัน
ในขณะที่ระดับต่ำสุดในท้องถิ่นอย่างน้อยก็ดีพอๆกับจุดที่ใกล้เคียง ส่วน global minimum ดีพอๆกับจุดที่เป็นไปได้ทุกๆจุด สำหรับปัญหา convex ถ้ามันมี local minimum ที่อยู่ภายใน (ไม่ได้อยู่บนมุมของชุดของจุดที่เป็นไปได้) มันเป็น global minimum ด้วย แต่ปัญหา nonconvex อาจจะมีมากกว่า 1 local minimum บางส่วนต้องการที่จะเป็น global minima
อัลกอริทึมจำนวนมากมีจุดประสงค์เพื่อที่จะแก้ปัญหา nonconvex — ส่วนใหญ่ ของนักแก้ปัญหาที่มีอยู่ในท้องตลาด — ไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ระหว่าง การแก้ปัญหาการหาค่าที่เหมาะสุดอย่างบ้านๆกับการแก้ปัญหาการหาค่าที่เหมาะสุด โดยสากลและจะปฏิบัติต่อผู้ขึ้นรูปเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงกับปัญหาเดิม Global optimization คือ สาขา ของคณิตศาสตร์ประยุกต์และการวิเคราะห์เชิงตัวเลข ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของ อัลกอริทึม deterministic ที่มีความสามารถในการรับ ประกัน convergence ในเวลาที่จำกัด เพื่อแก้ปัญหาในทางที่เหมาะสุดสำหรับปัญหา nonconvex
สัญกรณ์
ปัญหาการ Obtimization มักแสดงด้วยสัญกรณ์พิเศษ นี่เป็นตัวอย่าง :
ค่ามากสุดและน้อยสุดของฟังก์ชั่น
พิจารณาสัญกรณ์ต่อไปนี้ :
สิ่งนี้หมายถึงค่าน้อยที่สุดของฟังก์ชั่นวัตถุ เมื่อเลือก x จากชุดของ จำนวนจริง ค่าที่น้อยที่สุดในกรณีนี้ คือ 1 เกิดขึ้นที่
คล้ายกันกับ
ร้องขอสำหรับค่าที่มากที่สุดของฟังก์ชั่นเป้าหมาย 2x ที่ๆ x อาจจะเป็นจำนวน จริงใดๆก็ได้ ในกรณีนี้ ไม่มีฟังก์ชั่นเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ (คือไม่มีขอบเขต) ดังนั้น คำตอบก็คือ "infinity" หรือ "หาค่าไม่ได้"
Optimal Input Arguments
บทความหลัก : Arg max
พิจารณาสัญกรณ์ต่อไปนี้ :
หรือที่สมดุลกัน
ขึ้นอยู่กับ :
แทนคู่ของ ( x , y ) ที่ลดค่าของฟังก์ชั่นเป้าหมาย ที่ถูกเพิ่มข้อจำกัดว่า x อยู่ในช่วงของ [-5,5] (อีกครั้งนึง ค่าสูงสุดจริงๆของนิพจน์ไม่ได้สำคัญอะไร) ในกรณีนี้ การแก้ปัญหาเป็นคู่ของ (5, 2kπ) และ (−5,(2k+1)π) ที่ๆ k มีช่วงมาก กว่าจำนวนเต็มทั้งหมด arg min และ arg max บางครั้งอาจจะเขียนว่า argmin และ argmax ก็ได้ ซึ่งมันย่อมาจาก argument of the minimum และ argument of the maximum
บทความหลัก : Multi-objective optimization
การเพิ่มจุดประสงค์มากกว่า 1 จุดไปยังปัญหาการหาค่าเหมาะสุดเป็นการเพิ่มความ ซับซ้อนเข้าไปอีก ยกตัวอย่างเช่น เพื่อที่จะ optimize การออกแบบเชิงโครงสร้าง อย่างหนึ่งที่ต้องการการออกแบบ คือ เบาและแข็ง เมื่อ 2 วัตถุขัดแย้งกัน trade-off จะถูกสร้างขึ้นมา มันอาจจะเป็นการออกแบบที่เบาที่สุดอันนึง แข็งที่สุดอันนึงและ จำนวนการออกแบบที่นับไม่ถ้วนนั่นคือการประนีประนอมน้ำหนักและความแข็ง แกร่งบางอย่าง ชุดของการออกแบบ trade-off ที่ไม่สามารถปรับปรุงได้ตามเกณฑ์ หนึ่งโดยไม่ทำร้ายเกณฑ์อื่น รู้จักกันในฐานะที่เป็น Pareto set การโค้งเว้าหรือ curve สร้างการพล็อตน้ำหนักซึ่งต่อต้านความแข็งของการออกแบบที่ดีที่สุดที่รู้จักกันดีใน ฐานะที่เป็น Pareto frontier
การออกแบบถูกตัดสินว่าเป็น "Pareto ที่ดีที่สุด" ("ประสิทธิภาพของ Pareto" หรือ ในชุด Pareto ที่เท่าเทียมกัน) ถ้ามันไม่ได้ถูกครอบครองโดยการออกแบบอันอื่นๆ : ถ้ามันแย่กว่าการออกแบบอันอื่นๆ ในบางอย่างและไม่ดีที่สุดในประการใดๆ มันถูก ครอบงำและไม่ใช่ Pareto ที่ดีที่สุด
ทางเลือกท่ามกลางการแก้ปัญหา “Pareto ที่ดีที่สุด” เพื่อที่จะกำหนด “การแก้ปัญหา ที่ชื่นชอบ” ที่ถูกมอบหมายให้ทำการตัดสินใจ ในอีกด้านหนึ่ง กำหนดปัญหาเป็น สัญญาณการหาค่าที่ดีที่สุดของจุดประสงค์หลายจุดที่บางข้อมูลขาดหายไป : วัตถุ ประสงค์ที่พึงประสงค์ถูกให้ไว้แต่การรวมของพวกมันไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับอันอื่นๆ ซักเท่าไหร่ ในบางกรณี ข้อมูลที่ขาดหายไปสามารถถูกหาได้โดย interactive sessions ด้วยการทำการตัดสินใจ
ปัญหาการหาค่าที่เหมาะสุดแบบหลายวัตถุประสงค์ได้ถูก generalized ต่อไปเป็น ปัญหาการหาค่าเวกเตอร์ที่ดีที่สุดที่ๆการจัดอันดับไม่ได้ยาวมาก (บางส่วน) ถูกให้โดย การเรียงลำดับ Pareto
การหาค่า Multi-modal ที่เหมาะที่สุด
ปัญหาการหาค่าที่เหมาะที่สุดมักจะเป็น multi-modal; นั่นแหละ พวกเขามีการแก้ ปัญหาที่ดีมากมาย พวกเขาดีมากๆในทางระดับโลก (เหมือนกับค่า cost function) หรือมันมีการรวมกันระดับโลกที่ดีหลายๆอย่างและการแก้ปัญหาแบบบ้านๆที่ดีด้วย
การได้รับการแก้ปัญหาที่หลากหลายทั้งหมด (อย่างน้อยบางอย่าง) เป็นเป้าหมาย ของตัวหาค่าที่ดีที่สุดของ multi-modal
เทคนิคการหาค่าที่ดีที่สุดแบบคลาสสิคเนื่องจากการเข้าถึงซ้ำๆของพวกเขาไม่ได้มี
ประสิทธิภาพอย่างน่าพึงพอใจ เมื่อพวกเขาเคยได้รับการแก้ปัญหาที่หลากหลาย เพราะว่ามันไม่ได้ถูกการันตีว่าการแก้ปัญหาที่แตกต่างจะได้รับแม้แต่จุดเริ่มต้นที่แตกต่างในการรันที่หลากหลายของอัลกอริทึม อย่างไรก็ตาม Evolutionary algorithms เป็นการเข้าถึงที่ได้รับความนิยมมากๆเพื่อที่จะได้รับการแก้ปัญหาที่หลากหลายใน งานการหาค่าที่ดีที่สุดของ multi-modal
การจัดกลุ่มของประเด็นสำคัญและ extrema
ปัญหาความเป็นไปได้
ปัญหาความพึงพอใจ หรืออาจจะเรียกว่า ปัญหาความเป็นไปได้ เป็นปัญหาของการ หาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ใดๆโดยไม่คำนึงถึงคุณค่าของจุดประสงค์ สิ่งนี้สามารถ ถูก คำนึงถึงเป็นกรณีพิเศษของการหาค่าที่ดีที่สุดเชิงคณิตศาสตร์ที่ๆค่าของจุด ประสงค์เป็นแบบเดียวกันสำหรับทุกๆวิธีการแก้ปัญหา ดังนั้น การแก้ปัญหาใดๆ ก็เหมาะที่สุดแล้ว
อัลกอริทึมการหาค่าที่ดีที่สุดหลายอันจำเป็นที่จะต้องเริ่มจากจุดที่เป็นไปได้ ทางเดียวที่จะได้รับจุดนั้น คือ ผ่อนคลายในสถานการณ์ที่เป็นไปได้โดยใช้ตัวแปร slack ; ด้วย slack ที่เพียงพอ จุดเริ่มต้นใดๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เสร็จแล้วลดตัวแปร slack นั้นจนกว่า slack จะ null หรือเป็นลบ
การมีอยู่
ทฤษฎีบทค่าสุดขีดของ Karl Weierstrass กล่าวว่า ฟังก์ชั่นค่าจริงๆที่ต่อเนื่องบนชุด
compact บรรลุถึงค่ามากสุดและน้อยสุดของมันแล้ว โดยปกติ ฟังก์ชั่นที่ต่ำกว่าแบบ กึ่งต่อเนื่องบนชุด compact บรรลุค่าน้อยสุดของมัน ; ฟังก์ชั่นที่สูงกว่าแบบกึ่งต่อ เนื่องบนชุด compact บรรลุค่ามากสุดของมัน
1 ในทฤษฎีบทของ Fermat กว่าวว่า optima ของปัญหาที่ไม่มีข้อจำกัดถูกค้นพบที่ จุดคงที่ ที่ๆอนุพันธ์แรกหรือการไล่ระดับสีของฟังก์ชั่นจุดประสงค์เป็น 0 (ดูที่ first derivative test) โดยปกติ พวกเขาอาจจะถูกพบที่ประเด็นสำคัญที่ๆ อนุพันธ์แรก หรือการไล่ระดับสีของฟังก์ชั่นจุดประสงค์เป็น 0 หรือหาค่าไม่ได้หรือบนขอบเขต ของชุดตัวเลือกสมการ (หรือชุดของสมการ) กว่าอนุพันธ์แรกๆเท่ากับ 0 ที่ๆภายใน ที่เหมาะสมถูกเรียกว่า 'เงื่อนไข first-order' หรือชุดของเงื่อนไข first-order
Optima ของปัญหาความเสมอภาคที่ถูกจำกัดสามารถถูกพบได้โดยวิธีการ Lagrange multiplier Optima ของปัญหาด้วยข้อจำกัดความเสมอภาคและ/หรือความไม่เสมอ ภาคสามารถถูกพบโดยการใช้ 'Karush–Kuhn–Tucker conditions'
เงื่อนไขที่เพียงพอสำหรับการหาค่าที่ดีที่สุด
ขณะที่บททดสอบของอนุพันธ์แรกระบุว่าอาจจะเป็น extrema การทดสอบนี้ไม่ได้ แยกแยะจุดที่น้อยที่สุดจากอันหนึ่งที่มากที่สุดหรืออันอื่นที่ไม่ทั้งสอง เมื่อฟังก์ชัน วัตถุประสงค์มีความแตกต่างกันสองครั้ง กรณีเหล่านี้จะถูกแยกแยะโดยการตรวจ สอบอนุพันธ์ที่ 2 หรือเมทริกซ์ของอนุพันธ์ที่ 2 (เรียกว่า Hessian matrix) ในปัญหาที่ไม่จำกัดหรือเมทริกซ์ของอนุพันธ์ที่ 2 ของฟังก์ชั่นวัตถุประสงค์และ ข้อจำกัดที่เรียกว่า bordered Hessian ในปัญหาที่จำกัด เงื่อนไขที่แยกแยะ maxima หรือ minima จากจุดคงที่อื่นๆ เรียกว่า ‘เงื่อนไข second-order’ (ดูที่ 'Second derivative test') ถ้าการแก้ปัญหาของผู้เข้าสมัครทำให้เงื่อนไข first-order พึงพอใจ แล้วเงื่อนไข second-order มันก็พึงพอใจด้วย มันมากเพียงพอในการก่อตั้งอย่าง น้อยก็การหาค่าที่ดีที่สุดระดับท้องถิ่น
ความละเอียดอ่อนและความต่อเนื่องของ optima
ทฤษฎีบทซองจดหมายอธิบายถึงวิธีการที่ค่าของการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเปลี่ยนไป
เมื่อพารามิเตอร์พื้นฐานเปลี่ยน กระบวนการคำนวณการเปลี่ยนแปลงนี้เรียกว่า comparative statics
ทฤษฎีบทค่ามากสุดของ Claude Berge (1963) อธิบายความต่อเนื่องของวิธีการแก้ ปัญหาที่ดีที่สุดเป็นฟังก์ชั่นของพารามิเตอร์พื้นฐาน
บทความหลัก : Karush–Kuhn–Tucker conditions
ยังสามารถดูได้ที่ : Critical point (mathematics), Differential calculus, Gradient, Hessian matrix, Positive definite matrix, Lipschitz continuity, Rademacher's theorem, Convex function, และ Convex analysis
สำหรับปัญหาที่ไม่จำกัดด้วยฟังก์ชั่น twice-differentiable บางจุดที่สำคัญสามารถ ถูกพบโดยการหาจุดที่ๆการไล่ระดับสีของฟังก์ชั่นเป้าหมายเป็น 0 (นั่นแหละ จุดคงที่) โดยปกติมาก การไล่ระดับสีย่อยที่เป็น 0 รับรองว่าค่าต่ำสุดในท้องถิ่น ได้รับการค้นพบสำหรับปัญหาการลดด้วยฟังก์ชัน convex และฟังก์ชั่น Lipschitz ท้องถิ่นอื่นๆ
ต่อไป จุดที่สำคัญสามารถถูกจัดกลุ่มโดยการใช้ความแน่นอนของเมทริกซ์ Hessian : ถ้า Hessian เป็นบวกแน่นอนที่จุดที่สำคัญ แล้วจุดนั้นคือจุดค่าน้อยสุดท้องถิ่น; ถ้า
Hessian matrix เป็นลบแน่นอน จุดนั้นคือค่าสูงสุดท้องถิ่น; ท้ายที่สุด จุดก็เป็น ชนิดหนึ่งของ saddle point
ปัญหาที่จำกัดมักจะสามารถถูกแปลงร่างไปเป็นปัญหาที่ไม่จำกัดด้วยความช่วยเหลือของ Lagrange multipliers (ตัวคูณ Lagrange) Lagrangian relaxation (การผ่อน คลายแบบ Lagrangian) ยังสามารถที่จะจัดหาวิธีการแก้ปัญหาโดยประมาณให้กับ ปัญหาจำกัดที่ยากได้
เมื่อฟังก์ชั่นเป้าหมาย คือ convex แล้วค่าต่ำสุดท้องถิ่นใดๆจะยังสามารถเป็นค่าต่ำ สุดของโลกได้อีกด้วย มันมีเทคนิคตัวเลขที่มีประสิทธิภาพสำหรับการลดฟังก์ชัน convex อยู่ เช่น interior-point methods
เทคนิคการหาค่าที่ดีที่สุดเชิงการคำนวณ
ในการแก้ปัญหา นักวิจัยอาจจะใช้อัลกอริทึมที่สิ้นสุดในจำนวนที่จำกัดของขั้นตอน หรือวิธีการซ้ำๆที่ประจบกันกับการแก้ปัญหา (บนบางคลาสของปัญหาที่ถูกระบุ) หรือการวิเคราะห์พฤติกรรมที่อาจจะให้วิธีการโดยประมาณกับปัญหาบางอย่าง (ถึงแม้ว่าการทำซ้ำๆของพวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องมาประจบกันก็ตาม)
อัลกอริทึมการหาค่าที่เหมาะสุด
ยังดูได้ที่ : List of optimization algorithms (ลิสต์ของอัลกอริทึมการหาค่าเหมาะสุด)
บทความหลัก : Iterative method
ยังสามารถดูได้ที่ : Newton's method in optimization, Quasi-Newton method, Finite difference, Approximation theory, และ Numerical analysis
วิธีการซ้ำๆใช้เพื่อแก้ปัญหาของการเขียนโปรแกรมที่ไม่ใช่เชิงเส้นแตกต่างกันไปขึ้น อยู่กับว่าพวกเขาประเมิน Hessians , การไล่ระดับสีหรือว่าค่าฟังก์ชั่นเท่านั้น ในขณะ ที่ประเมินค่า Hessians (H) และการไล่ระดับสี (G) มันก็ปรับปรุงอัตราของ convergence สำหรับฟังก์ชั่นที่ปริมาณเหล่านี้มีอยู่และความราบลื่นที่มีประสิทธิภาพ อย่างมาก การประเมินค่านี้เพิ่มความซับซ้อนเชิงการคำนวณ (หรือค่าใช้จ่ายเชิง คำนวณ) ของแต่ละการซ้ำ ในบางกรณี ความซับซ้อนในการคำนวณอาจสูงเกินไป
เกณฑ์สำคัญประการหนึ่งสำหรับการหาค่าเหมาะสุดเป็นเพียงจำนวนของการ ประเมินฟังก์ชั่นที่จำเป็นเนื่องจากมักเป็นความพยายามอย่างมากในการคำนวณ มักจะมากกว่าความพยายามภายใต้การหาค่าเหมาะสุดของมันเองมากๆ ซึ่งโดยหลัก แล้วจะต้องดำเนินการเหนือตัวแปร N
อนุพันธ์ให้ข้อมูลที่มีรายละเอียดสำหรับการหาค่าเหมาะสุด แต่มันยากขึ้นในการ คำนวณ เช่น การประมาณการไล่ระดับสีใช้อย่างน้อยการประเมินค่าฟังก์ชั่น N+1
สำหรับการประมาณของอนุพันธ์ที่ 2 (ถูกสะสมไว้ใน Hessian matrix) จำนวนของ การประเมินฟังก์ชั่นอยู่ในลำดับของ N² วิธีการของ Newton ต้องการลำดับที่ 2 ของ อนุพันธ์ ดังนั้นสำหรับแต่ละการทำซ้ำจำนวนของการเรียกฟังก์ชั่น คือ อยู่ในลำดับ ของ N² แต่สำหรับตัวหาค่าเหมาะสุดการไล่ระดับสีที่เรียบง่ายก็คือ N เพียงอย่าง เดียว อย่างไรก็ตาม ตัวหาค่าเหมาะสุดการไล่ระดับสี จำเป็นต้องใช้การทำซ้ำมากกว่า อัลกอริทึมของนิวตัน ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับจำนวนของการเรียกฟังก์ชันขึ้นอยู่กับปัญหา ของตัวมันเอง
โดยปกติ ถ้าฟังก์ชั่นเป้าหมายไม่ใช่ฟังก์ชั่นสมการกำลังสอง วิธีการที่มากมายของ การหาค่าที่เหมาะสุดจะใช้วิธีการอื่นๆในการทำให้มั่นใจว่าว่าบางส่วนของการวนซ้ำถูกประจบกันกับการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด วิธีการแรกและยังคงได้รับ ความนิยมสำหรับการ ทำให้มั่นใจว่า convergence พึ่งพากับ line searches ซึ่งหาค่า ฟังก์ชั่นที่ดีสุดพร้อม กันในมิติเดียว วิธีการอันที่ 2 และได้รับความนิยมมากขึ้น สำหรับการทำให้มั่นใจว่า convergence ใช้ trust regions ทั้ง line searches และ trust regions ถูกใช้ในวิธีการ ที่ทันสมัยของการหาค่าที่เหมาะสุดที่ไม่แตกต่างกัน โดยปกติแล้วตัวหาค่าเหมาะสุด ของโลกจะช้ากว่าตัวหาค่าเหมาะสุดท้องถิ่นที่แอดวานซ์มากๆ (เช่น BFGS) ดังนั้น บ่อยครั้งที่ตัวหาค่าที่เหมาะสุดของโลกที่มีประสิทธิภาพสามารถถูกสร้างโดยการเริ่ม ต้นตัวหาค่าเหมาะสุดท้องถิ่นจากจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกัน
บทความหลัก : Heuristic algorithm
นอกเหนือจาก (สิ้นสุดขอบเขต) อัลกอริทึมและ (convergent) วิธีการซ้ำๆ มันยังมี การวิเคราะห์พฤติกรรมด้วย การวิเคราะห์พฤติกรรมเป็นอัลกอริทึมใดๆที่ไม่การันตี (ทางคณิตศาสตร์) ในการหาวิธีการแก้ปัญหา แต่ยังคงเป็นประโยชน์ในบาง สถานการณ์ในเชิงปฏิบัติ
ลิสต์ของบางการวิเคราะห์พฤติกรรมที่รู้จักกันดี :
ปัญหาในไดนามิกส์ที่บอดี้แข็ง (โดยเฉพาะไดนามิกส์ที่บอดี้แข็งอย่างชัดเจน) มักจะ ต้องการเทคนิคการเขียนโปรแกรมเชิงคณิตศาสตร์ เพราะว่าคุณสามารถที่จะมอง ไดนามิกส์ที่บอดี้แข็งเป็นการตั้งใจที่จะแก้ปัญหาสมการความแตกต่างธรรมดาๆบน ข้อจำกัดที่หลากหลาย ; ข้อจำกัดของข้อจำกัดทางเรขาคณิตที่ไม่ใช่เชิงเส้นต่างๆ เช่น “2 จุดนี้จะต้องเหมือนกันตลอด” , “พื้นผิวนี้จะ ต้องไม่แทรกซึมเข้าไปยัง อันอื่น” หรือ “จุดนี้จะต้องอยู่ที่ไหนซักที่บน curve นี้เสมอ” อีกอย่างนึง คือ ปัญหาของการคำนวณแรงที่ติดต่อกันจะสามารถถูกทำให้เสร็จโดยการแก้ปัญหา linear complementarity problem (ปัญหาการรวมกันเชิงเส้น) ซึ่งสามารถมองเป็น ปัญหา QP (การเขียนโปรแกรมสมการกำลังสอง) ได้
ปัญหาการออกแบบที่หลากหลายสามารถถูกบีบอัดเป็นโปรแกรมการหาค่าที่ดีที่สุดได้อีกด้วย แอพพลิเคชั่นนี้เรียกได้ว่าเป็นการหาค่าที่ดีที่สุดของการออกแบบ สับเซ็ต 1 คือ การหาค่าที่ดีที่สุดทางวิศวกรรมและสับเซตอีกอันที่เป็นปัจจุบันและกำลังเติบโต ของสาขานี้ คือ การหาค่าที่ดีที่สุดการออกแบบแบบหลายสาขาวิชา ซึ่งขณะที่มันเป็น ประโยชน์ ในหลายๆปัญหาถูกเอาไปประยุกต์ใช้โดยเฉพาะกับปัญหาวิศวกรรม การบินและอวกาศ การเข้าถึงนี้อาจจะถูกประยุกต์ใช้ในจักรวาลวิทยาและดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ด้วย
เศรษฐศาตร์มีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการหาค่าที่ดีที่สุดของตัวแทน ซึ่งคำ นิยามที่มีอิทธิพลหมายถึงเศรษฐศาตร์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เป็น “การศึกษา พฤติกรรมของมนุษย์เป็นความสัมพันธ์ระหว่างตอนจบและวิธีที่หายาก” ด้วยการใช้ แบบทดแทน ทฤษฎีการหาค่าที่เหมาะที่สุดที่ทันสมัยรวมทฤษฎีการหาค่าที่เหมาะสุด แบบดั้งเดิมแต่ยังซ้อนทับกับทฤษฎีเกมและการศึกษาความสมดุลทางเศรษฐกิจ วารสารของรหัสวรรณกรรมทางเศรษฐศาสตร์จำแนกการเขียนโปรแกรมทาง คณิตศาสตร์ , เทคนิคการหาค่าที่เหมาะสุดและหัวข้อที่เกี่ยวข้องภายใต้ JEL:C61- C63 ในเศรษฐศาตร์จุลภาค ปัญหาคุณประโยชน์ของการหาค่ามากที่สุดและปัญหาคู่ ของมัน , ปัญหาการลดรายจ่ายให้น้อยที่สุด เป็นปัญหาการหาค่าที่เหมาะสุดทาง เศรษฐศาตร์ ตราบเท่าที่พวกเขาทำงานอย่างสม่ำเสมอ consumers จะถือว่ามี ประโยชน์สูงสุด ในขณะที่ firms มักจะถือว่าเป็นการเพิ่มผลกำไรสูงสุด นอกจากนี้ ตัวแทนมักจะถูกสร้างแบบจำลองว่าเป็นผู้ที่เสี่ยงต่อการเกลียด ดังนั้น มันดีกว่าที่ จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ราคาสินทรัพย์ยังเป็นแบบจำลองโดยใช้ทฤษฎี การหาค่าที่ดี ที่สุด แม้ว่าคณิตศาสตร์พื้นฐานอาศัยการหาค่าที่ดีที่สุดของกระบวนการ stochastic มากกว่าการหาค่าที่ดีที่สุดคงที่ ทฤษฎีการค้านานาชาติยังใช้การหาค่า ที่ดีที่สุดเพื่อ ที่จะอธิบายรูปแบบการค้าระหว่างชาติ การหาค่าที่ดีที่สุดของ portfolios เป็นตัวอย่าง ของการหาค่าที่ดีที่สุดในหลายๆวัตถุประสงค์ในทางเศรษฐศาสตร์
ตั้งแต่ปี 1970 เมื่อเวลาผ่านไปนักเศรษฐศาสตร์ได้ทำโมเดลการตัดสินใจไดนามิกส์ โดยการใช้ทฤษฎีการควบคุม ยกตัวอย่างเช่น นักเศรษฐศาสตร์จุลภาคใช้โมเดลการ ค้นหาแบบไดนามิกส์ในการศึกษาพฤติกรรมตลาดแรงงาน ความแตกต่างที่สำคัญ คือ ระหว่างโมเดล deterministic และ stochastic นักเศรษฐศาสตร์มหภาคสร้างโมเดล dynamic stochastic general equilibrium (DSGE) ที่อธิบายไดนามิกส์ของทั้ง เศรษฐศาสตร์เป็นผลมาจากการตัดสินใจหาค่าที่ดีที่สุดของการพึ่งพาอาศัยกันของคนงาน , ผู้บริโภค , นักลงทุนและรัฐบาล
บางแอพพลิเคชั่นธรรมดาของเทคนิคการหาค่าที่ดีที่สุดในวิศวกรรมทางไฟฟ้ารวมถึง การออกแบบ active filter , การลดสาขาที่เร่ร่อนในระบบจัดเก็บข้อมูลที่เป็น พลังงานแม่เหล็กยิ่งยวด , การออกแบบ space mapping ของโครงสร้างไมโครเวฟ ,
เสาอากาศโทรศัพท์มือถือ , การออกแบบทางแม่เหล็กไฟฟ้า การหาค่าที่ดีที่สุดของ การออกแบบชิ้นส่วนไมโครเวฟและเสาอากาศได้รับการตรวจสอบโดยเชิง Electromagnetically ทำให้มีการใช้แบบจำลองทางฟิสิกส์หรือการจำลองเชิงพื้นที่ ที่เหมาะสมและวิธีการทำแผนที่พื้นที่ตั้งแต่การค้นพบการทำแผนที่พื้นที่ในปี 1993
การหาค่าที่ดีที่สุดได้รับการใช้กันอย่างแพร่หลายในงานวิศวกรรมโยธา ปัญหาที่ทั่วไป ที่สุดของวิศวกรรมโยธาที่ถูกแก้ปัญหาโดยการหาค่าที่ดีที่สุดถูกตัดและเติมถนน , วงจรชีวิตการวิเคราะห์ของโครงสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน , การปรับระดับทรัพยากร และหาค่าที่ดีที่สุดของตารางเวลา
อีกสาขาหนึ่งที่ใช้เทคนิคการหาค่าที่ดีที่สุดอย่างกว้างขวาง คือ งานวิจัยการดำเนิน การ งานวิจัยการดำเนินการยังใช้โมเดล stochastic และการจำลองเพื่อสนับสนุน การปรับปรุงการทำการตัดสินใจอีกด้วย อย่างเพิ่มมากขึ้น งานวิจัยการดำเนินการ ใช้การเขียนโปรแกรม stochastic ในการทำโมเดลการตัดสินใจเชิงไดนามิกส์ที่ ปรับตัวเข้ากับเหตุการณ์ ; ปัญหาสามารถถูกแก้ไขด้วยการหาค่าเหมาะสุดแบบ large-scale และวิธีการการหาค่าที่ดีที่สุดแบบ stochastic
การหาค่าที่เหมาะที่สุดเชิงคณิตศาสตร์ถูกใช้ในการออกแบบตัวควบคุมที่ทันสมัย มากๆ ตัวควบคุมในระดับสูง เช่น แบบจำลองการทำนายการควบคุม(MPC) หรือการหาค่าที่เหมาะสุดแบบเวลาจริงๆ (RTO) ใช้งานการหาค่าที่เหมาะสุดเชิง คณิตศาสตร์ อัลกอริทึมเหล่านี้รันออนไลน์และมีการกำหนดค่าซ้ำๆสำหรับตัวแปร การตัดสินใจ เช่น การเปิดการอุดตันในโรงงานการผลิต ด้วยการแก้ปัญหาซ้ำๆที่ ปัญหาการหาค่าเหมาะสุดเชิงคณิตศาสตร์ รวมไปถึงข้อจำกัดและโมเดลของระบบที่ จะควบคุมอีกด้วย
เทคนิคการหาค่าที่เหมาะที่สุดถูกใช้เป็นปกติในปัญหาการประมาณค่าพารามิเตอร์ทางธรณีฟิสิกส์ ให้ชุดของการวัดเชิงธรณีฟิสิกส์ เช่น seismic recordings (การบันทึก คลื่นไหวสะเทือน) มันเป็นเรื่องปกติที่ใช้ในการแก้ปัญหาสำหรับคุณสมบัติทาง กายภาพและรูปร่างทางเรขาคณิตของหินและของเหลวพื้นฐาน
บทความหลัก : Molecular modeling
วิธีการหาค่าเหมาะสุดที่ไม่ใช่เชิงเส้นถูกใช้อย่างแพร่หลายใน conformational analysis
References :
Tag ที่น่าสนใจ: mathematical_optimization mathematical_programming optimization machine_translation mathematics computer_science programming linear_programming euclidean_space candidate_solutions feasible_solutions objective_function loss_function cost_function optimal_solution
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM