การประมวลผลภาพหรือ Image Processing เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลภาพและวิดีโอกลายเป็นสิ่งที่มีค่ามหาศาล วิธีหนึ่งที่ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพของการประมวลผลภาพคือการทำ Normalization หรือการปรับค่าให้ข้อมูลภาพอยู่ในช่วงที่เหมาะสม
Normalization คืออะไร?
การทำ Normalization ในบริบทของการประมวลผลภาพคือการปรับค่าพิกเซลของภาพให้มีค่าเฉลี่ยและช่วงที่เหมาะสม การทำเช่นนี้ช่วยให้โมเดลการเรียนรู้เชิงลึกทำงานได้ดีขึ้น โดยลดความเหลื่อมล้ำของข้อมูลและช่วยให้กระบวนการฝึกฝนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำไมถึงต้องทำ Normalization?
1. ลดความเหลื่อมล้ำของข้อมูล: ภาพที่มีค่าแสงต่างกันมากอาจทำให้โมเดลเข้าใจภาพผิดไป เช่น ภาพที่มืดกับภาพที่สว่างอาจมีข้อมูลเชิงภาพที่คล้ายกัน แต่มีค่าพิกเซลที่แตกต่างกัน 2. เร่งความเร็วในการเรียนรู้: ข้อมูลที่ผ่าน normalization จะอยู่ในช่วงที่คงที่ ทำให้การเรียนรู้ระหว่าง layer ต่าง ๆ ของโมเดลเร็วขึ้น เพราะไม่มีความแตกต่างอย่างสุดโต่งในน้ำหนักที่ต้องปรับ 3. เพิ่มความเที่ยงตรงของโมเดล: โดยการลดความเบี่ยงเบนของข้อมูล โมเดลจะสามารถแยกแยะและเรียนรู้ลักษณะที่แท้จริงของข้อมูลได้ดีกว่าการทำ Normalization ใน TensorFlow
TensorFlow คือหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการสร้างและฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ ในการทำ normalization ของภาพใน TensorFlow นั้น สามารถทำได้ด้วยการใช้ฟังก์ชัน `tf.image.per_image_standardization()` ที่มีให้ใช้งานโดยตรง
ตัวอย่างโค้ดการทำ Normalization ด้วย TensorFlow:
import tensorflow as tf
# โหลดภาพตัวอย่าง
image_path = 'path_to_your_image.jpg'
image = tf.io.read_file(image_path)
image = tf.image.decode_jpeg(image, channels=3)
# การทำ Normalization
normalized_image = tf.image.per_image_standardization(image)
# แสดงข้อมูลสรุป
print("Mean:", tf.reduce_mean(normalized_image).numpy())
print("Standard Deviation:", tf.math.reduce_std(normalized_image).numpy())
ในตัวอย่างนี้ เราเริ่มด้วยการโหลดภาพที่ต้องการผ่าน `tf.io.read_file` และทำการ decode เป็นรูปแบบ Tensor ที่ TensorFlow สามารถจัดการได้ จากนั้นจึงใช้ `tf.image.per_image_standardization()` เพื่อนำค่า mean ของพิกเซลทำให้กลายเป็น 0 และ standard deviation เป็น 1
Usecase ที่น่าสนใจ
1. การตรวจสอบคุณภาพของภาพถ่ายทางการแพทย์: ในด้านการแพทย์ ภาพถ่ายเช่น XRAY หรือ MRI ที่มี normalization จะทำให้ปัญญาประดิษฐ์สามารถตรวจจับและแยกชนิดของโรคได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 2. การประยุกต์ใช้งานในระบบความปลอดภัย: ระบบกล้องวงจรปิดที่มีการทำ normalization ของภาพสามารถปรับปรุงการตรวจจับวัตถุได้ดีขึ้นในบริเวณที่มีแสงสว่างไม่สม่ำเสมอการทำ Normalization เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายการเรียนรู้เชิงลึก หากคุณสนใจในการเข้าใจด้านนี้อย่างลึกซึ้งและต้องการพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมในเชิงปัญญาประดิษฐ์ เราขอแนะนำให้คุณศึกษาเพิ่มเติมหรือลงเรียนวิชาเกี่ยวกับการประมวลผลภาพที่สถาบันการเรียนรู้เชิงลึกเช่น EPT (Expert Programming Tutor) ที่มีการอบรมเรื่องนี้วิธีการเชิงลึกอย่างละเอียด
การเข้าใจและสามารถปรับใช้ normalization กับภาพเป็นทักษะที่มีค่า โดยเฉพาะในวันที่ข้อมูลภาพมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีในปัจจุบัน หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้กับผู้ที่สนใจการประมวลผลภาพและการเรียนรู้เชิงลึก
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM