การพัฒนาแอปพลิเคชันในยุคปัจจุบันนั้น มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้งานระบบคลาวด์ที่ช่วยให้การพัฒนาและการใช้งานข้อมูลเป็นไปอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น หนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมคือ Firebase ซึ่งเป็นบริการแพลตฟอร์มการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการจัดการฐานข้อมูลและระบบไร้เซิร์ฟเวอร์ เช่น Firebase Cloud Function ที่เราจะชวนคุณไปดูตัวอย่างการใช้งานผ่าน NodeJS ในบทความนี้กันค่ะ
Firebase Cloud Function เป็นบริการที่ให้คุณเขียนและรันความสามารถบางอย่างของเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ต้องจัดการกับโครงสร้างพื้นฐานโดยตรง คุณสามารถสร้าง function ที่ทำงานตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Firebase และบริการอื่นๆของ Google
การใช้ Firebase Cloud Function นั้นมีข้อดีหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น:
- คุณไม่จำเป็นต้องจัดการกับเซิร์ฟเวอร์แบบดั้งเดิม ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
- สามารถขยายขนาดได้อัตโนมัติตามจำนวนการใช้งาน
- นำมาใช้กับการกระทำที่หลากหลาย เช่น การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของฐานข้อมูล, การรับข้อความจากอุปกรณ์ผู้ใช้, หรือการทำงานของเว็บฮุค
การที่จะสร้างและใช้งาน Cloud Function นั้นไม่ใช้เรื่องยาก ลองมาดูตัวอย่างการสร้าง API สำหรับการเพิ่มข้อมูลผู้ใช้ในฐานข้อมูล Firestore ด้วย NodeJS กันเลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: การตั้งค่าโปรเจกต์
อันดับแรกคุณจะต้องมีบัญชี Firebase และได้สร้างโปรเจกต์ใน Firebase Console แล้ว จากนั้นใช้ Firebase CLI ในการทำงานกับโปรเจกต์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถติดตั้ง Firebase CLI ได้ผ่าน npm ดังนี้:
npm install -g firebase-tools
ขั้นตอนที่ 2: สร้างและกำหนดค่า Function
สร้าง function ขึ้นมาในไดเร็กทอรี่ที่เกิดจากการเริ่มต้นใช้งาน Firebase:
firebase init functions
จากนั้นในไดเร็กทอรี่ `functions` ที่ถูกสร้างขึ้น จะมีไฟล์ `index.js` ที่เราจะใช้เขียนโค้ดสำหรับ API ของเราค่ะ
ขั้นตอนที่ 3: เขียนโค้ดสำหรับ API
const functions = require('firebase-functions');
const admin = require('firebase-admin');
admin.initializeApp();
exports.addUser = functions.https.onRequest((req, res) => {
const newUser = req.body;
admin.firestore().collection('users').add(newUser)
.then(docRef => res.status(200).send(docRef.id))
.catch(error => res.status(500).send(error));
});
ในโค้ดข้างบน เราได้สร้าง function ชื่อ `addUser` ที่จะทำงานเมื่อมีการเรียกใช้งานผ่าน HTTP request เราจะรับข้อมูลผู้ใช้ใหม่ผ่าน `req.body` แล้วใช้ `admin.firestore()` เพื่อเพิ่มข้อมูลผู้ใช้นั้นลงในคอลเลกชัน `users`บน Firestore
ขั้นตอนที่ 4: ทดสอบและเปิดใช้งาน
ก่อนที่จะเปิดใช้งาน function อย่างเป็นทางการบน Firebase คุณสามารถทดสอบมันได้โดยการใช้ Firebase Emulator หรือโดยการพิมพ์คำสั่ง:
firebase serve --only functions
หลังจากที่ทดสอบและพอใจกับผลลัพธ์ เราสามารถเปิดใช้งาน function ด้วยการ deploy มันขึ้นไปยัง Firebase:
firebase deploy --only functions
จากนั้น API ของเราจะสามารถใช้งานได้จริงบน Firebase Cloud Function แล้วค่ะ
การเรียนรู้และฝึกฝนการเขียนโค้ดงานแบบนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ต้องการทำความเข้าใจระบบคลาวด์และการใช้งานแบบ serverless เพิ่มเติม และหากคุณมีความสนใจที่จะขยับขยายความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมและการพัฒนาโซลูชันบนคลาวด์ การลงเรียนในหลักสูตรที่จะปูพื้นฐานทางเทคนิคให้อย่างมั่นคงนั้นเป็นก้าวที่ดีทีเดียวค่ะ
การใช้งาน Firebase Cloud Function กับ NodeJS เป็นตัวอย่างเล็กๆที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในโลกของการพัฒนาแอปพลิเคชัน ซึ่งเมื่อความเข้าใจและทักษะของคุณเติบโตขึ้น คุณจะสามารถสร้างสรรค์โซลูชันที่ซับซ้อนและน่าประทับใจมากขึ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัยค่ะ
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: firebase cloud_function nodejs api firestore serverless firebase_cli function_development javascript firebase_emulator
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com