ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยการสื่อสารข้อมูลสำคัญผ่านทางอินเทอร์เน็ต การมีระบบการเข้ารหัสที่เชื่อถือได้และปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก Public Key Cryptography หรือการเข้ารหัสด้วยกุญแจสาธารณะ เป็นเทคนิคหนึ่งที่ได้รับการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในการปกป้องข้อมูล และมีความสำคัญต่อเทคโนโลยีการเข้ารหัสยุคใหม่อย่างมาก
Public Key Cryptography (PKC) เป็นระบบการเข้ารหัสที่ใช้คู่กุญแจสองแบบ: กุญแจสาธารณะ (Public Key) และกุญแจส่วนตัว (Private Key) ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์กัน กุญแจสาธารณะสามารถแชร์ให้กับผู้อื่นได้โดยไม่มีความเสี่ยง ในขณะที่กุญแจส่วนตัวต้องเก็บไว้อย่างปลอดภัยและไม่ควรเปิดเผย
การสื่อสารด้วยระบบ PKC ประกอบด้วยขั้นตอนการเข้ารหัสด้วยกุญแจสาธารณะของผู้รับ และการถอดรหัสด้วยกุญแจส่วนตัวของผู้รับเท่านั้น ส่งผลให้ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสจะไม่สามารถถูกถอดรหัสได้หากไม่มีกุญแจที่ถูกต้อง
PKC มีการนำไปใช้ในหลากหลายเงื่อนไข เช่น การส่งอีเมลที่เข้ารหัส, ระบบการชำระเงินออนไลน์, การเข้าสู่ระบบ (authentication) และการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลลับ เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น ในการส่งอีเมลที่ปลอดภัย ผู้ส่งสามารถเข้ารหัสข้อความโดยใช้กุญแจสาธารณะของผู้รับ จากนั้นผู้รับจะใช้กุญแจส่วนตัวของตนเองเพื่อถอดรหัส ทำให้แม้แต่ผู้ให้บริการอีเมลของผู้ส่งเองก็ไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาข้อความได้หากไม่มีกุญแจส่วนตัวของผู้รับ
from cryptography.hazmat.backends import default_backend
from cryptography.hazmat.primitives.asymmetric import rsa
from cryptography.hazmat.primitives import serialization
# สร้างคีย์แพร์สำหรับการเข้ารหัส
private_key = rsa.generate_private_key(public_exponent=65537, key_size=2048, backend=default_backend())
public_key = private_key.public_key()
# ออกกุญแจสาธารณะเพื่อแชร์
pem = public_key.public_bytes(encoding=serialization.Encoding.PEM, format=serialization.PublicFormat.SubjectPublicKeyInfo)
print(pem.decode('utf-8'))
โค้ดด้านบนเป็นตัวอย่างของการสร้างคีย์แพร์ในภาษา Python โดยใช้ไลบรารี cryptography ซึ่งจะสร้างรายการกุญแจส่วนตัวและกุญแจสาธารณะที่เกี่ยวข้องกัน
Q: PKC นั้นปลอดภัยจริงหรือ?
A: PKC นับว่ามีความปลอดภัยสูง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความยาวของกุญแจและกระบวนการเก็บรักษากุญแจส่วนตัวอย่างปลอดภัย
Q: เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคู่กุญแจที่ได้รับเป็นของผู้ที่เราต้องการสื่อสาร?
A: การใช้ PKI (Public Key Infrastructure) และการได้รับการรับรองจาก CA (Certificate Authority) จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคู่กุญแจมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
Q: PKC แตกต่างจากระบบการเข้ารหัสแบบอื่นอย่างไร?
A: ระบบการเข้ารหัสแบบอื่น ๆ เช่น Symmetric Cryptography ใช้กุญแจเดียวกันในการเข้ารหัสและถอดรหัส ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงในการสูญหายหรือถูกขโมยของกุญแจได้ง่ายกว่า
Public Key Cryptography พัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ความปลอดภัยข้อมูลที่สำคัญในโลกดิจิทัล และเป็นพื้นฐานของระบบความปลอดภัยเช่น SSL/TLS ที่ใช้ในการเข้ารหัสการสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน การเข้าใจและการสามารถนำไปประยุกต์ใช้การเข้ารหัสลักษณะนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ทำงานในด้านการคุ้มครองข้อมูลและการติดต่อสื่อสารอย่างปลอดภัยในโลกไซเบอร์.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: public_key_cryptography pkc encryption decryption security digital_signature public_key_infrastructure asymmetric_encryption cryptography python cryptography_library ssl/tls data_security communication_security information_security
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com