ในยุคที่โลกออนไลน์กลายเป็นหมู่บ้านโลกอย่างแท้จริง โอกาสในการเข้าถึงผู้ใช้จากทั่วทุกมุมโลกนั้นเปิดกว้างอย่างไม่มีขีดจำกัด ธุรกิจที่ต้องการขยายสู่ตลาดสากลจึงจำเป็นต้องมีการทำให้ซอฟต์แวร์ของตนเป็นสากล (Internationalization) และการแปลเพื่อให้ตรงกับภาษาและภูมิภาคเฉพาะ (Localization) ในบทความนี้ เราจะพูดถึงการทำให้เป็นสากลและการแปลซอฟต์แวร์ให้เข้ากับภาษาและวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อเปิดเส้นทางในการเข้าถึงผู้ใช้ให้กว้างขึ้น
การทำให้เป็นสากลคือกระบวนการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ให้สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อใช้งานในตลาดที่มีภาษาและวัฒนธรรมต่างกันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการรองรับภาษาที่มีการเขียนจากขวาไปซ้าย เช่น ภาษาอารบิก การจัดการกับรูปแบบวันที่และตัวเลขที่แตกต่างกัน หรือการเคารพต่อทางเลือกทางวัฒนธรรมต่างๆ
การทำให้องค์กรหรือนักพัฒนามองเห็นความสำคัญของ I18N นั้น ส่งผลให้ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นมีความสามารถในการนำไปใช้งานในท้องถิ่นต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดใหม่ทั้งหมดเมื่อต้องการเปิดตลาดในประเทศใหม่ๆ
หลังจากการทำให้เป็นสากลแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปลี่ยนแปลงส่วนต่างๆ ของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตรงกับภาษารูปภาพ รูปแบบค่าเงิน รูปแบบวันที่ และวัฒนธรรมของท้องถิ่นนั้นๆ การแปลไม่ได้หมายถึงแค่การเปลี่ยนภาษาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการแก้ไข content ให้เหมาะสมกับหลักศีลธรรม และศุลกากรของแต่ละภูมิภาคอีกด้วย
การเข้าใจและประยุกต์ใช้ I18N และ L10N อย่างถูกต้อง ไม่เพียงแต่ช่วยขยายฐานลูกค้าให้ไกลออกไป แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกว่าซอฟต์แวร์นั้นถูกออกแบบมาเพื่อตนเองโดยเฉพาะ ภายใต้การนำเสนอที่ละเอียดอ่อนต่อความต้องการ และความรู้สึกของผู้ใช้ในแต่ละภาคส่วนของโลก
โดยทั่วไป ภาษาการเขียนโปรแกรม เช่น Java หรือ PHP มีคลาสหรือฟังก์ชันที่ช่วยในการจัดการกับข้อมูลสากลและการแปล ตัวอย่างเช่น ใน Java, `ResourceBundle` ช่วยให้เราสามารถสร้างไฟล์ทรัพยากรสำหรับภาษาและภูมิภาคต่างๆ แล้วโหลดข้อความที่เหมาะสมตามที่ตั้ง:
ResourceBundle messages = ResourceBundle.getBundle("MessagesBundle", currentLocale);
System.out.println(messages.getString("greeting"));
// MessagesBundle_en_US.properties
greeting=Hello!
// MessagesBundle_th_TH.properties
greeting=สวัสดีครับ!
การใช้ `ResourceBundle` เป็นรูปแบบหนึ่งของ I18N ที่ทำให้เราสามารถแยกข้อความและสตริงในโปรแกรมออกจากโค้ด และทำให้การแปลเป็นไปได้อย่างมีระบบ ทำให้เราสามารถเพิ่มภาษาใหม่เข้าไปโดยไม่มีผลกระทบต่อโค้ดหลัก
เพื่อก้าวขึ้นเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เชี่ยวชาญในการทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนเป็นสากล คุณจะต้องมีความรู้ที่แน่นในด้านการเข้ารหัสตามมาตรฐาน Unicode การเข้าใจแนวคิดเบื้องหลังการเรียงส่วนประกอบของโปรแกรม ความสามารถในการทำงานกับไลบรารีและ API ที่รองรับการทำงานหลายภาษา รวมถึงการฝึกฝนการใช้เครื่องมือทดสอบและช่วยเหลือการแปล
ที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) เรามองเห็นความสำคัญของการพัฒนาโปรแกรมให้มีความสามารถในการใช้งานอย่างสากล และพร้อมที่จะสนับสนุนการเรียนรู้ของคุณในทิศทางนี้ ไม่ว่าจะเป็นทุกหลักสูตรที่ครอบคลุม ตั้งแต่หลักการพื้นฐานของการเขียนโค้ดไปจนถึงเทคนิคขั้นสูงในการทำให้องค์กรและผลิตภัณฑ์ของคุณก้าวสู่สากล ขอเชิญคุณร่วมเดินทางไปกับเรา และเปิดโอกาสในสายอาชีพการเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับโลกที่มีความต้องการสูงในตลาดปัจจุบัน
การเรียนรู้ไม่จำกัดอยู่ที่ชั้นเรียนเท่านั้น แต่เป็นเส้นทางสู่อนาคตที่สดใส เปิดประตูสู่อุตสาหกรรมไอทีที่กำลังเติบโตไม่หยุดหย่อน และที่ EPT เรายินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตนั้นพร้อมกับคุณ.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM