หากเราเปรียบโลกอินเทอร์เน็ตเป็นเมืองใหญ่ๆ ที่มีบ้านและอาคารมากมาย ที่อยู่ของแต่ละบ้านหรืออาคารนั้นก็จะเป็นตัวเลขที่เรียกว่า IP Address (Internet Protocol Address) นั่นเอง และ DNS (Domain Name System) ทำหน้าที่คล้ายๆ กับหนังสือที่อยู่หรือสมุดโทรศัพท์ที่มีการจดบันทึกว่าแต่ละชื่อเว็บไซต์ (เช่น google.com) นั้นตรงกับ IP Address ไหน
DNS จะช่วยให้เราไม่ต้องจำตัวเลขที่ซับซ้อนของ IP Address เมื่อเราต้องการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการบอกทางให้เราหาบ้านหรืออาคารนั้นๆ ได้ง่ายขึ้น
ประโยชน์หลักของ DNS คือช่วยให้การเข้าถึงเว็บไซต์ทำได้ง่ายขึ้น เพราะเราสามารถพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่เราจำง่ายแทนที่จะเป็นค่า IP Address ที่ยากต่อการจดจำ นอกจากนี้ DNS ยังช่วยจัดการกับการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ IP Address ของเซิร์ฟเวอร์อย่างลื่นไหลโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องรับรู้
เราใช้งาน DNS ทุกครั้งที่พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ลงในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ (URL - Uniform Resource Locator) เพื่อเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นๆ ระบบจะส่งคำร้องไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS เพื่อขอ IP Address ที่ตรงกับชื่อเว็บไซต์เพื่อทำการเชื่อมต่อ
ลองนึกภาพว่าเราต้องการส่งจดหมายให้เพื่อน แต่เราไม่ทราบที่อยู่บ้านของเขา เราจึงใช้สมุดที่อยู่ที่บันทึกชื่อและที่อยู่ของเขา ในโลกอินเทอร์เน็ต ชื่อเว็บไซต์คือ 'ชื่อของเพื่อน' และ DNS คือ 'สมุดที่อยู่' นั่นเอง โดย DNS จะบอกเราว่า IP Address (หรือที่อยู่บ้านในโลกออนไลน์) คืออะไร จึงทำให้เราสามารถส่งข้อมูลหรือเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นๆ ได้
สมมติว่าเราต้องการเข้าสู่เว็บไซต์ `www.example.com`, เมื่อเรารับประทานชื่อเว็บไซต์ดังกล่าวและกด Enter, เบราว์เซอร์ของเราจะส่งคำขอไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS เพื่อหา IP Address ที่สอดคล้อง ยกตัวอย่างเช่น IP Address ของ `www.example.com` อาจจะเป็น `93.184.216.34`. เมื่อทราบ IP Address แล้ว, เบราว์เซอร์จึงสามารถเชื่อมโยงไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เจ้าของเว็บไซต์และโหลดเนื้อหาที่เราต้องการได้.
DNS นั้นเป็นสิ่งที่อยู่ในฐานรากของวิธีที่เราเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน อำนวยความสะดวกและทำให้เราสามารถจดจำและเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล แบบออนไลน์ได้อย่างราบรื่นและไม่ซับซ้อน.
การเรียนรู้เกี่ยวกับ DNS และประสาทอินเทอร์เน็ตทั้งหมดนั้น เป็นส่วนหนึ่งของความรู้พื้นฐานในวงการไอทีและการพัฒนาเว็บไซต์ ที่โรงเรียนสอนโปรแกรมมิ่ง EPT เรามีหลักสูตรการเขียนโปรแกรมที่ครอบคลุม บทเรียนพื้นฐานอย่าง DNS นี้จะถูกนำไปใช้กับหลักสูตรที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนพร้อมสำหรับวงการไอทีที่กำลังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM