บทความ: การประยุกต์ใช้ Loop และ If-Else ภายใน Loop ในภาษา R พร้อมตัวอย่างที่ใช้งานจริง
การเขียนโปรแกรมไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการหรือประยุกต์ใช้ในโลกธุรกิจ คำสั่ง Loop และ If-Else เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ในภาษา R ที่เป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในหมู่นักวิเคราะห์ข้อมูล, นักสถิติ, และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล คำสั่งเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เราจะดูกันว่า Loop และ If-Else ในภาษา R นั้นทำงานอย่างไร พร้อมกับตัวอย่างโค้ดและการใช้งานในโลกจริง
Loop ในภาษา R มีสองประเภทหลักๆ คือ `for` และ `while` loop. โดย `for` loop จะใช้เมื่อเราทราบจำนวนครั้งที่ชัดเจนที่ต้องการให้ loop ทำงาน ในขณะที่ `while` loop จะทำงานต่อเนื่องจนกว่าเงื่อนไขที่กำหนดจะเป็น false.
ตัวอย่างโค้ด 1: For Loop ที่พิมพ์เลขตั้งแต่ 1 ถึง 10
for (i in 1:10) {
print(i)
}
ในตัวอย่างนี้, โค้ดจะพิมพ์เลขตั้งแต่ 1 ถึง 10 ในคอนโซล โดยคำสั่ง `print()` จะถูกเรียกใช้ในแต่ละรอบของ loop.
ตัวอย่างโค้ด 2: While Loop ที่พิมพ์เลขตั้งแต่ 1 จนกว่าจะถึงเลขที่กำหนด
counter <- 1
while (counter <= 10) {
print(counter)
counter <- counter + 1
}
ในตัวอย่างนี้, `while` loop จะเริ่มที่ 1 และตรวจสอบเงื่อนไขทุกรอบว่า `counter` น้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 หรือไม่ ถ้าใช่, มันจะพิมพ์ค่าและเพิ่ม counter ขึ้น 1.
การใช้งาน If-Else ภายใน Loop เป็นการควบคุมการทำงานของ Loop ให้สามารถตอบสนองตามเงื่อนไขที่กำหนดได้อย่างแม่นยำ เรามาดูตัวอย่างการใช้งาน If-Else ภายใน `for` loop.
ตัวอย่างโค้ด 3: For Loop กับ If-Else เพื่อหาเลขคี่และเลขคู่
for (i in 1:10) {
if (i %% 2 == 0) {
print(paste(i, "เป็นเลขคู่"))
} else {
print(paste(i, "เป็นเลขคี่"))
}
}
โค้ดนี้จะตรวจสอบว่าค่า `i` เป็นเลขคู่หรือคี่ โดยใช้คำสั่ง modulo (`%%`) และคำสั่ง `paste()` สำหรับต่อสตริง เพื่อแสดงผลลัพธ์ออกมา.
ตัวอย่างการใช้ Loop และ If-Else ในภาษา R ในโลกจริง อาทิเช่น เมื่อต้องทำการวิเคราะห์ชุดข้อมูลใหญ่ๆที่มีค่าต่างๆ มากมาย เช่น การตรวจจับค่าที่ผิดปกติ (outliers) หรือการคัดกรองข้อมูลตามเงื่อนไขบางอย่าง. ดูตัวอย่างโค้ดด้านล่างที่แสดงการใช้ `for` loop กับ `if-else` เพื่อหาค่าเฉลี่ยของตัวเลขที่ไม่ใช่ outliers.
numbers <- c(1, 4, 6, 2, 100, 3, 150, 3, 2)
sum <- 0
count <- 0
for (i in numbers) {
if (i < 10) {
sum <- sum + i
count <- count + 1
} else {
print(paste(i, "เป็น outlier และถูกละเว้น"))
}
}
average <- sum / count
print(paste("ค่าเฉลี่ยของตัวเลขที่ถูกต้องคือ:", average))
โค้ดนี้จะวนลูปผ่านทุกค่าใน array `numbers` และบวกค่าที่น้อยกว่า 10 เข้ากับ `sum` และนับจำนวนการวนด้วย `count` หลังจากนั้นคำนวณค่าเฉลี่ยของข้อมูลที่ไม่ใช่ outliers.
ในสภาพแวดล้อมการศึกษาและการทำงาน การทราบการใช้งาน loop และ if-else ในภาษา R เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่จะช่วยให้คุณเข้าใจการจัดการและการคำนวณเบื้องหลังการวิเคราะห์ข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น ที่ Expert-Programming-Tutor (EPT), เรามุ่งเน้นส่งมอบความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมที่ใช้งานได้จริง ไม่เพียงแต่สอนภาษา R แต่ยังรวมถึงหลักการทางการเขียนโปรแกรม โดยมีผู้สอนผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะแนะนำคุณในทุกขั้นตอนในการเรียนรู้ หากคุณสนใจที่จะเปิดโลกการเขียนโปรแกรมที่กว้างขึ้น อย่าลืมเยี่ยมชมเราที่ EPT สำหรับหลักสูตรที่ตอบสนองความต้องการของทุกคน.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM