หากคุณเคยมีของเล่นคำถามขายที่ในแต่ละชิ้นเป็นเรื่องยากที่จะเก็บในกล่องเดียวกัน คุณอาจจะคิดถึงวิธีที่จะจัดระเบียบให้มันง่ายต่อการจัดเก็บและนำกลับมาเล่นได้อีกครั้ง นี่คือความคล้ายคลึงกับ "Serialization" ในโลกการเขียนโปรแกรม ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้ข้อมูลที่ซับซ้อนสามารถจัดเก็บและส่งผ่านระบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้ 'Serialization' จึงมีความสำคัญและมีประโยชน์มากในโลกของการเขียนโปรแกรม
ลองนึกภาพว่า Serialization คือกระบวนการทำให้ข้อมูลที่เหมือนโครงสร้างตึกแต่ละชั้นให้กลายเป็นรูปปั้นดินน้ำมัน ที่สามารถยืดหยุ่นและเปลี่ยนรูปได้ตามต้องการ แต่เมื่อต้องการ ก็สามารถฟื้นรูปเดิมกลับคืนมาได้
ในทางเทคนิค, Serialization คือการแปลงข้อมูลที่มีโครงสร้างเป็นข้อมูลชุดต่อเนื่อง (อาจเป็นสตริงหรือไบนารี) เพื่อที่จะสามารถเก็บข้อมูลนั้นลงในไฟล์บนดิสก์หรือส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้
การที่มีประโยชน์นั้นก็เหมือนกับการที่เราห่อของขวัญอย่างมีระเบียบเพื่อที่จะส่งให้คนอื่นมันจะเปิดอ่านได้ง่ายขึ้น ในเชิงโปรแกรม Serialization ทำให้เราสามารถ:
1. จัดเก็บข้อมูล: เราสามารถเก็บข้อมูลที่มีโครงสร้างซับซ้อนไว้ในรูปแบบที่ง่ายต่อการจัดเก็บ เช่น เก็บไว้ในฐานข้อมูลหรือเซฟเป็นไฟล์บนคอมพิวเตอร์ 2. สื่อสารข้อมูล: เราสามารถส่งข้อมูลไปยังระบบอื่นหรืออุปกรณ์อื่นผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องไม่เข้ากันของระบบที่ใช้ 3. ปรับปรุงข้อมูล: ช่วยให้สามารถอัปเดตหรือแก้ไขข้อมูลได้ง่ายขึ้น
Serialization นั้นมีประโยชน์มากเมื่อเราต้องการ:
- เมื่อต้องการจัดเก็บสถานะของออบเจ็คไว้แล้วนำกลับมาใช้ในภายหลัง
- เมื่อต้องการส่งข้อมูลไปยังแอพพลิเคชั่นอื่นผ่าน API
- เมื่อต้องการโหลดข้อมูลออบเจ็คจากสถานะที่เก็บไว้ในฐานข้อมูล
เพื่อให้เด็ก 8 ปีเข้าใจ Serialization ลองนึกถึงการเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์ พอเราเล่นเกมไปถึงจุดหนึ่งแล้ว มีอะไรเกิดขึ้น? เรากด "บันทึกเกม" เพื่อที่ว่าถ้าเราออกจากเกมแล้วกลับเข้ามาเล่นอีกครั้ง เราจะเริ่มต้นจากจุดที่เราบันทึกไว้ได้เลย นี่คือการใช้ Serialization ในชีวิตจริง เรา "บันทึก" สถานะของเกม (ข้อมูล) ไว้เป็นไฟล์บนคอมพิวเตอร์ และเมื่อเรา "โหลดเกม" เรากำลังทำ Deserialization – นำข้อมูลกลับมาใช้ให้เหมือนเดิม
ในภาษาการเขียนโปรแกรม Python, การใช้ serialization ด้วยโมดูลที่เรียกว่า 'pickle' จะเป็นตัวอย่างที่ดี:
import pickle
# สมมติว่าเรามี dictionary ข้อมูลนักเรียน
student = {'name': 'Somchai', 'age': 8, 'grade': 3}
# Serialization: การบันทึก dictionary ลงไฟล์
with open('student.pickle', 'wb') as file:
pickle.dump(student, file)
# Deserialization: การโหลดข้อมูลจากไฟล์กลับมาเป็น dictionary
with open('student.pickle', 'rb') as file:
loaded_student = pickle.load(file)
print(loaded_student)
จากตัวอย่างการใช้งาน pickle ด้านบน เราสามารถดูได้ว่าข้อมูลนักเรียนถูกระบุ้องกลับมาใช้งานได้อย่างไรหลังจากทำการบันทึกและโหลดข้อมูล
เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมและการใช้เทคนิคที่สำคัญอย่าง Serialization, เพราะมันเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้การสื่อสารข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลทำได้อย่างมีประสิทธิภาพในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์
หากคุณเริ่มต้นอยากเรียนรู้การเขียนโปรแกรม เพื่อที่จะเข้าใจและสามารถนำเทคนิคที่มีประสิทธิภาพอย่าง Serialization ไปประยุกต์ใช้, การเรียนรู้ที่สถาบันเช่น Expert-Programming-Tutor จะเปิดโลกทัศน์ให้กับคุณในการเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีทักษะมากมาย ให้ก้าวข้ามข้อมูลในรูปแบบต่างๆ และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมกับการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงในอาชีพนี้.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM