#### จุดเริ่มต้นของ Design Thinking
Design Thinking เป็นกระบวนการที่ใช้สำหรับคิดค้นและแก้ไขปัญหาในทางสร้างสรรค์ ซึ่งเดิมทีถูกประยุกต์ใช้ในสาขาของการออกแบบ (Design) แต่ได้แพร่กระจายไปในหลายๆ สาขาวิชา เช่น การศึกษา, วิศวกรรม, และเขียนโปรแกรม ด้วยความที่มันเน้นไปที่การทำความเข้าใจผู้ใช้งาน (User-Centric) และสร้างสรรค์การแก้ไขที่เป็นนวัตกรรม จึงทำให้มีการนำ Design Thinking มาใช้กับการพัฒนาซอฟต์แวร์และโปรแกรมในปัจจุบัน
#### ประกอบไปด้วยขั้นตอนหลัก 5 ระยะของ Design Thinking:
1. กระจายความคิด (Empathize): ทำความเข้าใจและฝึกความเห็นอกเห็นใจผู้ใช้งาน 2. วางปัญหา (Define): นิยามปัญหาอย่างชัดเจนจากมุมมองของผู้ใช้งาน 3. สร้างแนวคิด (Ideate): สร้างสรรค์ไอเดียหรือโซลูชั่นที่มีศักยภาพ 4. ทำต้นแบบ (Prototype): สร้างต้นแบบเพื่อทดลองและทดสอบความคิด 5. ทดสอบ (Test): ทดสอบโซลูชั่นกับผู้ใช้จริงเพื่อรับฟีดแบ็คและปรับปรุง#### การประยุกต์ใช้ Design Thinking ในการเขียนโปรแกรม
การเขียนโปรแกรมไม่ได้เป็นเพียงการเขียนโค้ดที่ทำงานได้ แต่ยังรวมถึงการสร้างโปรแกรมที่ตอบโจทย์และเข้าใจผู้ใช้งานจริง ด้วยการใช้ Design Thinking ในการเขียนโปรแกรมพัฒนาสามารถเกิดโซลูชั่นที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาสำคัญๆ ได้อย่างแม่นยำและสร้างสรรค์
โดยปกติ คุณอาจเริ่มจากการเขียนโค้ดโดยตรง เช่น สร้างแอปพลิเคชันสำหรับการจองห้องพักในโรงแรม แต่ด้วยการใช้ Design Thinking คุณจะเริ่มด้วยการสัมภาษณ์ลูกค้าหลายๆ คนเพื่อทำความเข้าใจถึงความต้องการและปัญหาที่พวกเขาพบเมื่อจองห้องพัก
// ตัวอย่างโค้ดสำหรับสร้างหน้าจอการจองห้องพัก
public class BookingScreen {
public void displayRoomOptions() {
// แสดงตัวเลือกรายการห้องพักตามความต้องการของลูกค้า
}
public void reserveRoom(User user, Room room) {
// โค้ดสำหรับจองห้องพักที่เลือก
}
}
จากการสำรวจโดยใช้การสัมภาษณ์ คุณอาจค้นพบว่าส่วนใหญ่ของลูกค้ามีปัญหาเรื่องความสะดวกสบายในการเลือกห้องพักที่ตรงกับความต้องการ ด้วยข้อมูลนี้ คุณจึงสามารถวางปัญหาและสร้างแนวคิดที่ช่วยให้เขาสามารถจองห้องพักได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วมากขึ้น
#### ประโยชน์อื่นๆ ของ Design Thinking ในการเขียนโปรแกรม
1. การพัฒนาที่เน้นผู้ใช้: ทำให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง 2. นวัตกรรม: กระตุ้นให้เกิดการคิดนอกกรอบและแนวทางใหม่ๆในการแก้ปัญหา 3. การทำงานร่วมกัน: ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมซึ่งช่วยให้หลากหลายมุมมองรวมกันถูกนำมาพิจารณา 4. ความยืดหยุ่น: ปรับเปลี่ยนแนวทางได้อย่างรวดเร็วจากข้อมูลผู้ใช้และทดสอบต้นแบบการนำ Design Thinking มาประยุกต์ใช้ในการเขียนโปรแกรมทำให้ไม่เพียงแต่ผู้พัฒนาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสร้างสรรค์ได้ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อีกด้วย
การศึกษาโปรแกรมมิ่งที่ EPT เน้นการสอนไม่เพียงแค่ทักษะการเขียนโค้ดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการนำความคิดทางการออกแบบมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างผลงานที่มีความเฉพาะตัวและเป็นประโยชน์ หากคุณต้องการปูทางสู่การเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ระดับโลก การทำความเข้าใจและฝึกฝนกระบวนการ Design Thinking อาจเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามไปในการศึกษาเขียนโปรแกรมของคุณ.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM