ในยุคที่วงการเทคโนโลยีซอฟต์แวร์กำลังเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนั้น การเขียนแอพพลิเคชันให้ดี แข็งแกร่ง และยืดหยุ่นได้ กลายเป็นสิ่งสำคัญมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางกระแส DevOps และการพัฒนาแอพแบบอะจิล (Agile) การทำความเข้าใจ Twelve-Factor App Methodology จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจว่า Twelve-Factor App คืออะไร และทำไมมันถึงมีบทบาทในการพัฒนาซอฟต์แวร์
Twelve-Factor App เป็นหลักการที่ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาแอพพลิเคชัน โดยเฉพาะที่เป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการซอฟต์แวร์บนคลาวด์ (SaaS - Software as a Service) หลักการนี้ประกอบด้วยสิบสองปัจจัย ที่ช่วยให้แอพพลิเคชันของคุณเป็น modern, scalable, และมีการบำรุงรักษาที่ง่ายดาย
สิบสองปัจจัยที่สำคัญ
1. Codebase - มีหนึ่ง code base แต่มีหลาย deployments 2. Dependencies - อย่างหลีกเหลี่ยงการเพิ่มตัวแปรระบบหรือ dependencies ที่ต้องติดตั้งในระบบ 3. Config - การตั้งค่าระบบควรถูกเก็บใน environment variables 4. Backing Services - ควรรักษาบริการฐานข้อมูลแบบเป็นอิสระ (Loosely coupled) 5. Build, release, run - แยกการสร้างแอพ, ปล่อยแอพ, และการทำงานของแอพออกจากกัน 6. Processes - แอพควรทำงานในฐานะ stateless processes 7. Port binding - แอพควรทำการ expose ผ่าน port bindings 8. Concurrency - ผ่านการใช้ process model ให้แอพมีความสามารถในการจัดการ traffic ที่มากขึ้น 9. Disposability - ความสามารถในการเริ่มต้นใหม่และปิดทำงานได้อย่างรวดเร็ว 10. Dev/prod parity - การพยายามให้สภาพแวดล้อมที่พัฒนาและ production นั้นเหมือนกันมากที่สุด 11. Logs - การจัดการ log ที่เหมาะสม 12. Admin processes - การบำรุงรักษาและการจัดการแอพว่าเป็นกระบวนการที่แยกต่างหากโครงสร้างและปรัชญาของ Twelve-Factor App
วิธีการเหล่านี้ช่วยให้แอพพลิเคชันของคุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย โดยมุ่งเน้นที่การสร้างโครงสร้างแอพที่ราบรื่นและทันสมัย โดยไม่ต้องกังวลถึงสภาพแวดล้อมภายนอกมากนัก ทำให้ทีมพัฒนาสามารถมุ่งความสนใจไปที่การเขียนโค้ดที่มีคุณภาพ และลดความซับซ้อนที่ไม่จำเป็น
กรณีศึกษาและตัวอย่างโค้ด
สมมติว่าเรากำลังพัฒนาแอพพลิเคชันเว็บด้วย Python และ Flask และใช้ PostgreSQL เป็น backing service ด้วย Docker สิ่งหนึ่งที่ Twelve-Factor App แนะนำคือการปรับใช้ config ผ่าน environment variables ตัวอย่างโค้ดสามารถดูได้ดังนี้:
import os
from flask import Flask
from sqlalchemy import create_engine
app = Flask(__name__)
db_url = os.getenv('DATABASE_URL') # ใช้ค่าจาก environment variable
engine = create_engine(db_url)
@app.route('/')
def hello():
return 'Welcome to the Twelve-Factor App demo!'
if __name__ == '__main__':
app.run(host='0.0.0.0')
การใช้ `os.getenv` ช่วยให้เราสามารถรับค่าตัวแปรจาก environment variable ซึ่งสามารถกำหนดได้ที่ runtime ไม่ต้องเขียนตายตัวในโค้ด ทำให้สามารถเปลี่ยนแปลงค่าได้ไม่ยากเมื่อย้ายจากสภาพแวดล้อมหนึ่งไปยังอีกสภาพแวดล้อมหนึ่ง
คำแนะนำจาก EPT
การพัฒนาซอฟต์แวร์แบบใช้ Twelve-Factor App Methodology นั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจและท้าทาย ที่ EPT เรามีหลักสูตรเฉพาะทางด้านการเขียนโปรแกรมที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและนำหลักการเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมีประสบการณ์มาบ้างแล้วก็ตาม เราพร้อมที่จะช่วยให้คุณคว้าโอกาสในการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมืออาชีพ และสร้างผลงานที่ยั่งยืนตามหลัก Twelve-Factor App
ในขณะที่เราก้าวเดินทางไปในโลกการพัฒนาซอฟต์แวร์ การทำความเข้าใจกับ Twelve-Factor App Methodology นับเป็นก้าวสำคัญ ที่จะนำไปสู่การสร้างซอฟต์แวร์ที่ไม่เพียงแค่ทำงานได้ดีในปัจจุบัน แต่ยังรองรับการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตในอนาคตอีกด้วย
เชิญค้นพบหลักสูตรและการเรียนรู้ที่ EPT ทันสมัย ท้าทาย และเข้าใจง่าย พวกเราที่ EPT พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางสู่อาชีพนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ประสบความสำเร็จของคุณ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM