# 5 Console Methods ที่ Developer ควรลองใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาโปรแกรม
การพัฒนาซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้วิธีการแก้ไขปัญหาและการทดสอบอย่างมีระบบ ในบรรดารูปแบบการทดสอบเหล่านั้น การใช้งานเครื่องมือต่างๆที่สามารถช่วยให้ฝ่ายพัฒนาเข้าใจและตรวจสอบพฤติกรรมของโปรแกรมได้อย่างละเอียดคือสิ่งจำเป็น เมท็อดที่ใช้งานบ่อยในการทดสอบหรือแก้ไขปัญหาทางเทคนิคคือ Console API ในภาษา JavaScript แต่หลายคนอาจจะใช้งานเพียงไม่กี่เมท็อดที่พื้นฐานเช่น `console.log()` เท่านั้น วันนี้เราจะมาดู 5 Console Methods ที่น่าสนใจและควรลองใช้ในการพัฒนาโปรแกรมกัน
เมท็อด `console.table()` เป็นวิธีที่ง่ายต่อการเรียกดูข้อมูลที่มีโครงสร้างเหมือน array หรือ object ในรูปแบบของตาราง ซึ่งทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ข้อมูล
const students = [
{ name: "Somchai", score: 80 },
{ name: "Somsri", score: 90 },
];
console.table(students);
เมื่อใช้ `console.table()` ข้อมูลข้างต้นจะถูกแสดงใน Console ในรูปแบบของตาราง ทำให้ตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
เมท็อด `console.assert()` เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการทดสอบเงื่อนไขที่คาดหวัง เมท็อดนี้จะเขียนข้อความบันทึกสำหรับเงื่อนไขที่ไม่คาดคิด หรือเมื่อ expression ที่ถูกตรวจสอบคือ false
console.assert(1 === 2, "Expression is false, this is an error!");
ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงหรือกรณีทดสอบผ่าน `console.assert()` จะไม่เขียนอะไรลงใน Console เลย
การจัดกลุ่มข้อความบันทึกเป็นวิธีที่ดีในการหลีกเลี่ยงความสับสนในการติดตามและแยกแยะเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ใน Console เมท็อด `console.group()` เริ่มการจัดกลุ่ม และ `console.groupEnd()` จะสิ้นสุดการจัดกลุ่มนั้น
console.group('Fetching Data');
console.log('Requesting user data...');
// User data request code here
console.log('Request complete.');
console.groupEnd();
การบันทึกจะถูกจัดกลุ่มเข้าด้วยกันภายใต้ "Fetching Data" ทำให้สามารถเข้าใจความสัมพันธ์ของกระบวนการดังกล่าวได้ง่ายขึ้น
สำหรับการวัดการทำงานของชิ้นส่วนโค้ดหรือโปรแกรม `console.time()` เริ่มการนับเวลา ส่วน `console.timeEnd()` จะสิ้นสุดการนับและแสดงเวลาที่ได้
console.time('data_processing');
// Data processing code
console.timeEnd('data_processing');
การใช้เมท็อดเหล่านี้ช่วยให้สามารถพิจารณาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโค้ดในช่วงเวลาที่ต่างกันได้
เมื่อพัฒนาโปรแกรม เรามักเจอกับความผิดพลาดหรือเตือน การใช้ `console.error()` และ `console.warn()` ทำให้ข้อความเตือนหรือข้อผิดพลาดเด่นชัด ทำให้สามารถแยกแยะและตอบสนองอย่างรวดเร็วได้
console.warn('This is a warning message');
console.error('This is an error message');
การแสดงเตือนและข้อผิดพลาดในรูปแบบที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถระบุและจัดการปัญหาได้อย่างราบรื่น
---
การใช้ Console Methods เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาโปรแกรมเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ฝ่ายพัฒนาสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ตรรกะของโปรแกรมได้อย่างลึกซึ้ง การที่เราสามารถมองเห็นการทำงานของโปรแกรมหลักและสามารถแบ่งแยกข้อผิดพลาดได้อย่างชัดเจนนั้นสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ หากคุณสนใจในการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคและเครื่องมือในการพัฒนาโปรแกรม JavaScipt อย่าลืมว่าโรงเรียนสอนการเขียนโปรแกรมอย่าง EPT สามารถเป็นแหล่งความรู้ที่ดีในการพัฒนาทักษะของคุณได้.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: console_methods developer_tools programming_efficiency javascript console.table console.assert console.group console.time console.error console.warn
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com