บทความ: รายการที่เชื่อมโยง (Linked Lists) - คอลเลกชันเชิงเส้นขององค์ประกอบข้อมูลที่ล้ำค่า
การจัดการข้อมูลเป็นหัวใจหลักของการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หนึ่งในโครงสร้างข้อมูลที่เป็นพื้นฐานและมีประโยชน์ยิ่งในการจัดการชุดข้อมูลคือ "รายการที่เชื่อมโยง" หรือ Linked Lists ค่ะ ในบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจความงดงามและความสามารถของ Linked Lists เพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้ง และคริติกข้อดีข้อเสียอย่างมีเหตุมีผล พร้อมทั้งยกตัวอย่างโค้ดสำหรับตัวอย่างการใช้งานที่ชัดเจน
Linked List ถือกำเนิดขึ้นจากความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลที่มีขนาดไม่คงที่และต้องการการแก้ไขเป็นประจำ อาทิเช่น รายชื่อของนักเรียนในห้องเรียนที่อาจมีการเพิ่มหรือลดจำนวนนักเรียนได้ตลอดเวลา การเก็บข้อมูลแบบเรียงลำดับในอาร์เรย์ (Arrays) อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องขนาดและการจัดเตรียมหน่วยความจำในขณะเริ่มต้น
Linked List ประกอบด้วย 'โหนด' (nodes) ที่แต่ละโหนดจะมีสองส่วนหลัก คือ ข้อมูล และ การเชื่อมโยงไปยังโหนดถัดไป ทำให้โครงสร้างนี้ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ความจำติดต่อกันทางกายภาพ แต่มีการเชื่อมโยงกันโดยการชี้ไปยังที่ตั้งของโหนดถัดไป นี่คือความงดงามและความยืดหยุ่นที่ Linked Lists เสนอให้
1. Singly Linked Lists
2. Doubly Linked Lists
3. Circular Linked Lists
ทั้งสามประเภทนี้มีลักษณะที่แตกต่างกันเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น Doubly Linked List อนุญาตให้การเดินทางไปและกลับระหว่างโหนด เนื่องจากมีการเชื่อมโยงสองทิศทาง ในขณะที่ Circular Linked List โหนดสุดท้ายจะชี้กลับไปยังโหนดแรก สร้างลูปข้อมูลที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
ข้อดี:
- ความยืดหยุ่น: สามารถเพิ่มหรือลบโหนดได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องจัดโครงสร้างทั้งหมดใหม่ - การใช้หน่วยความจำ: ใช้หน่วยความจำอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจัดเตรียมเฉพาะส่วนที่จำเป็นต้องใช้งานข้อเสีย:
- การเข้าถึงข้อมูล: การเข้าถึงข้อมูลอาจช้ากว่าอาร์เรย์ เนื่องจากต้องเดินทางผ่านโหนดเพื่อหาข้อมูลที่ต้องการ - การใช้พื้นที่: แต่ละโหนดจำเป็นต้องมีพื้นที่สำหรับการเก็บ pointer ซึ่งอาจทำให้ใช้พื้นที่มากกว่าอาร์เรย์ในบางกรณี
class Node:
def __init__(self, data):
self.data = data
self.next = None
class LinkedList:
def __init__(self):
self.head = None
def append(self, data):
new_node = Node(data)
if not self.head:
self.head = new_node
return
last_node = self.head
while last_node.next:
last_node = last_node.next
last_node.next = new_node
# สร้างลิสต์และเพิ่มข้อมูล
llist = LinkedList()
llist.append('A')
llist.append('B')
llist.append('C')
# แสดงข้อมูลที่เก็บในลิสต์
current_node = llist.head
while current_node:
print(current_node.data)
current_node = current_node.next
หากคุณโปรแกรมเมอร์ที่หลงใหลในการค้นหาวิธีการเก็บข้อมูลที่มีคุณภาพและความสามารถที่ไม่จำกัด ลิงก์ด์ลิสต์อาจเป็นคำตอบในใจของคุณ และถ้าคุณต้องการเรียนรู้ทักษะการเขียนโค้ดเพิ่มเติม หรือพัฒนาความสามารถด้านการเขียนโปรแกรมให้เต็มศักยภาพ EPT (Expert-Programming-Tutor) เป็นโรงเรียนการเขียนโปรแกรมที่พร้อมพาคุณไปสัมผัสกับการเรียนรู้ที่สนุกสนาน และล้ำลึกทางวิชาการค่ะ ความฝันในการเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มืออาชีพอาจเริ่มต้นได้ที่นี่!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM