การเรียงลำดับข้อมูล (Sorting) เป็นหนึ่งในโจทย์พื้นฐานที่พบบ่อยในโลกดิจิตอล หลายท่านที่ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการเขียนโปรแกรมมักจะเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจวิธีการเรียงลำดับข้อมูล โดยหนึ่งใน Algorithm ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพคือ "Merge Sort"
Merge Sort คืออะไร?
Merge Sort เป็น algorithm สำหรับการเรียงลำดับข้อมูลที่ทำงานบนหลักการแบ่งแล้วจัดการ (Divide and Conquer) โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ คือ การแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนย่อยๆจนไม่สามารถแบ่งได้อีก (ส่วนนี้เรียกว่า Divide) และจากนั้นจะรวมส่วนย่อยเหล่านั้นกลับเข้าด้วยกันพร้อมทั้งทำการเรียงลำดับข้อมูล (ส่วนนี้เรียกว่า Conquer) จนได้รายการข้อมูลที่เรียงลำดับแล้ว
ในภาษา Rust, Merge Sort สามารถถูกเขียนออกมาโดยใช้ประโยชน์จากการควบคุมทรัพยากรอย่างแม่นยำ และความสามารถในการแก้ปัญหาแบบ recursive ได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างโค้ดสำหรับ Merge Sort ใน Rust มีดังนี้:
fn merge_sort(arr: &mut [i32]) {
let mid = arr.len() / 2;
if mid == 0 {
return;
}
merge_sort(&mut arr[..mid]);
merge_sort(&mut arr[mid..]);
let mut ret = arr.to_vec();
merge(&arr[..mid], &arr[mid..], &mut ret[..]);
arr.copy_from_slice(&ret);
}
fn merge(left: &[i32], right: &[i32], ret: &mut [i32]) {
let (mut left_idx, mut right_idx, mut ret_idx) = (0, 0, 0);
while left_idx < left.len() && right_idx < right.len() {
if left[left_idx] <= right[right_idx] {
ret[ret_idx] = left[left_idx];
left_idx += 1;
} else {
ret[ret_idx] = right[right_idx];
right_idx += 1;
}
ret_idx += 1;
}
if left_idx < left.len() {
ret[ret_idx..].copy_from_slice(&left[left_idx..]);
}
if right_idx < right.len() {
ret[ret_idx..].copy_from_slice(&right[right_idx..]);
}
}
fn main() {
let mut input_array = [3, 1, 4, 1, 5, 9, 2, 6, 5, 3, 5];
println!("Before: {:?}", input_array);
merge_sort(&mut input_array);
println!("After: {:?}", input_array);
}
Usecase ในโลกจริง:
Merge Sort มักใช้ในการเรียงลำดับข้อมูลทางด้านฐานข้อมูล, การออกแบบระบบ ณ ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เนื่องจากมีประสิทธิภาพดีในการจัดการข้อมูลจำนวนมาก นอกจากนี้ยังใช้ในการพัฒนาโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องการความสามารถในการเรียงลำดับข้อมูลที่มีชุดข้อมูลซับซ้อนหรือมีขนาดใหญ่ รวมถึงในงานวิจัยที่ต้องการความแม่นยำและเสถียรภาพ
Complexity:
Merge Sort มีความซับซ้อนทางเวลา (Time Complexity) ในกรณีเฉลี่ยและกรณีแย่ที่สุดอยู่ที่ O(n log n) ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเมื่อเปรียบเทียบกับ Algorithm เรียงลำดับแบบอื่นๆ ที่มีโอกาสเกิด worst-case performance แบบ O(n^2) อย่าง Quick Sort หรือ Bubble Sort
ข้อดีของ Merge Sort:
- มี Performance ที่สม่ำเสมอไม่ว่าข้อมูลจะอยู่ในรูปแบบใด
- มีประสิทธิภาพดีสำหรับชุดข้อมูลขนาดใหญ่
- แต่ละ step ของการแบ่งและการรวมสามารถทำการประมวลผลแบบขนาน (Parallelize) ได้
ข้อเสียของ Merge Sort:
- ต้องใช้หน่วยความจำเพิ่มเติมเมื่อเทียบกับ Sorting Algorithm ตัวอื่นที่ทำงาน In-place เช่น Quick Sort
- ไม่เหมาะสำหรับชุดข้อมูลที่เล็กมาก ที่ Algorithm แบบ In-place อาจจะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
การเรียนรู้ Merge Sort และ Algorithm อื่นๆ เป็นหัวใจสำคัญของการเขียนโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพและเป็นระเบียบ ที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) เรามีหลักสูตรที่จะพาคุณเข้าใจและประยุกต์ใช้ Algorithm เหล่านี้ในการพัฒนาโปรแกรมจริง ไม่ว่าคุณจะสนใจไปทางฐานข้อมูล, การพัฒนา Web หรือการสร้างโปรแกรมประยุกต์ เรามีความพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทักษะของคุณให้ไปถึงระดับที่สูงขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: merge_sort การเรียงลำดับข้อมูล วิเคราะห์ความซับซ้อน ภาษา_rust algorithm divide_and_conquer recursive time_complexity performance parallelize in-place quick_sort bubble_sort
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM