การเขียนโค้ด (Code) ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างโปรแกรมให้ทำงานได้ทันทีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเขียนให้มีคุณภาพ สามารถเข้าใจง่ายและดูแลรักษา (Maintainable) ได้ในระยะยาวอีกด้วย บทความนี้จะเสนอ 5 เคล็ดลับที่จะช่วยให้โค้ดของคุณมีความหมายชัดเจนและอ่านได้ง่าย ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นประโยชน์ต่อผู้พัฒนาคนเดียว แต่รวมถึงทีมงาน และผู้ที่อาจจะต้องมาทำงานต่อในอนาคตอีกด้วย
1. การตั้งชื่อตัวแปรและฟังก์ชันอย่างมีความหมาย
ชื่อของตัวแปรและฟังก์ชันควรสะท้อนความหมายและบริบทการใช้งานอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้อ่านโค้ดเข้าใจว่าแต่ละส่วนทำหน้าที่อย่างไร ทุกครั้งที่ตั้งชื่อควรหลีกเลี่ยงชื่อที่มีความหมายคลุมเครือหรือย่อมาจากคำที่อาจทำให้สับสน
ตัวอย่างของชื่อตัวแปรที่ดี:
customer_account_balance = 1000.00
ตัวอย่างของชื่อตัวแปรที่ควรหลีกเลี่ยง:
cab = 1000.00 # ไม่ชัดเจนว่า "cab" หมายถึงอะไร
2. การค้นหามาตรฐานการเขียนโค้ดในภาษาที่ใช้ (Coding Conventions)
ทุกภาษาโปรแกรมมีมาตรฐานการเขียนโค้ดหรือ Coding Conventions ที่ชุมชนนักพัฒนาทั่วไปยึดถือกัน เช่นการเว้นวรรค, การตั้งชื่อ, การจัดโครงสร้างของโค้ด การยึดถือมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้โค้ดมีรูปแบบที่สอดคล้องกัน ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
ตัวอย่างของโค้ดที่เขียนตามมาตรฐาน (Python's PEP-8):
def calculate_area(width, height):
return width * height
3. การแบ่งโค้ดออกเป็นหน่วยย่อยๆ (Modularity)
การเขียนโค้ดให้มีโครงสร้างเป็นหน่วยย่อยๆ ที่ขนานนามว่า "โมดูล" (Modules) ทำให้โค้ดเข้าใจง่ายขึ้น แต่ละโมดูลควรมีหน้าที่ที่ชัดเจนและสามารถทำงานได้เป็นอิสระ ถ้าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จะทำให้กระทำได้ง่ายและไม่กระทบส่วนอื่นๆ
ตัวอย่างของโค้ดที่แบ่งเป็นโมดูล:
# โมดูลการคำนวณพื้นที่
def calculate_area_rectangle(width, height):
return width * height
def calculate_area_circle(radius):
return 3.1415 * (radius ** 2)
4. การเขียนคำอธิบายหรือคอมเมนต์ที่มีประโยชน์
คอมเมนต์ในโค้ดควรให้ข้อมูลที่ช่วยอธิบายว่าทำไมโค้ดถึงถูกเขียนอย่างนั้น และมีจุดประสงค์อะไร ควรหลีกเลี่ยงการใส่คอมเมนต์ที่เห็นได้ชัดจากโค้ดเอง
ตัวอย่างคอมเมนต์ที่มีประโยชน์:
# ใช้สูตร Heron's formula ในการคำนวณพื้นที่ของสามเหลี่ยม
def calculate_area_triangle(side1, side2, side3):
s = (side1 + side2 + side3) / 2
area = (s*(s-side1)*(s-side2)*(s-side3)) ** 0.5
return area
5. การทบทวนและรีแฟกเตอร์โค้ดอย่างสม่ำเสมอ (Code Review and Refactoring)
การทบทวนและรีแฟกเตอร์โค้ดเป็นกระบวนการสำคัญที่จะช่วยให้โค้ดของคุณมีคุณภาพมากขึ้น ไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่โค้ดที่เขียนด้วยความระมัดระวังก็ยังมีโอกาสที่จะปรับปรุงได้ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและขยายต่อในอนาคต
ตัวอย่างของกระบวนการทบทวนโค้ด:
# เวอร์ชันเดิม
def calc_area_triangle(s1, s2, s3):
s = (s1 + s2 + s3) / 2
return (s*(s-s1)*(s-s2)*(s-s3)) ** 0.5
# เวอร์ชันที่ได้รับการรีแฟกเตอร์
def calculate_area_triangle(side1, side2, side3):
semiperimeter = calculate_semiperimeter(side1, side2, side3)
area = calculate_triangle_area_from_semiperimeter(semiperimeter, side1, side2, side3)
return area
def calculate_semiperimeter(side1, side2, side3):
return (side1 + side2 + side3) / 2
def calculate_triangle_area_from_semiperimeter(semiperimeter, side1, side2, side3):
return (semiperimeter * (semiperimeter - side1) * (semiperimeter - side2) * (semiperimeter - side3)) ** 0.5
การประยุกต์ใช้เคล็ดลับเหล่านี้อาจต้องใช้เวลาและความพยายามในการฝึกฝนเพื่อให้เข้าใจและถนัดในการใช้งาน ที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) เราพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เข้าใจหลักการเขียนโค้ดที่ดีซึ่งแสดงถึงความเป็นมืออาชีพในการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างแท้จริง หากคุณเป็นผู้ที่มองหาความรู้และประสบการณ์ในการเขียนโค้ดที่มีคุณภาพ การอ่านบทความวิชาการด้านการเขียนโปรแกรมเหล่านี้ก็สามารถเป็นขั้นตอนแรกในการพัฒนาทักษะของคุณได้เป็นอย่างดี
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM