Node.js เป็นระบบรันไทม์ (Runtime System) ที่ใช้ภาษา JavaScript ซึ่งได้รับความนิยมในการพัฒนาแอปพลิเคชัน server-side และ networking applications ทั้งนี้เนื่องจากมีความสามารถในการจัดการ I/O ที่ไม่ซิงโครนัส (Asynchronous I/O) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการออกแบบที่ช่วยให้ระบบสามารถสนับสนุนจำนวนผู้ใช้งานพร้อมกันได้จำนวนมากโดยไม่ทำให้ระบบล่ม (scalability) อันเป็นจุดเด่นที่ทำให้ Node.js ได้รับความสนใจจากนักพัฒนาทั่วโลก
ประสิทธิภาพสูง
Node.js ใช้เอนจิน V8 ของ Google Chrome ที่เข้ารหัส JavaScript เป็นรหัสเครื่อง (Machine Code) ทำให้โค้ดที่เขียนด้วย JavaScript สามารถทำงานได้เร็วทันใจ
ไม่ซิงโครนัส (Asynchronous)
การจัดการกระบวนการ I/O ที่ไม่ต้องรอซิงโครนัสช่วยลดเวลาที่ระบบต้องรอในกระบวนการต่าง ๆ ทำให้สามารถจัดการคำสั่งพร้อมกันได้หลายคำสั่ง
เหมาะสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันระดับองค์กร
มีการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก เช่น, Netflix และ LinkedIn เนื่องจากสามารถจัดการกับฐานข้อมูลใหญ่ ๆ และการทำงานแบบ Real-time ได้อย่างดี
รองรับการทำงานแบบ Full Stack
เนื่องจากใช้ JavaScript ทั้งส่วนของ Client และ Server จึงช่วยลดเวลาที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างฝั่ง Server และ Client
Node.js มีการใช้งานที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน, ระบบจัดการฐานข้อมูล API, แอปพลิเคชัน Real-time (เช่น, Chat Bots), ระบบสำหรับการจัดการ I/O ที่ซับซ้อน (เช่น, IoT หรือ streaming services) เป็นต้น
ตัวอย่างการใช้งานในการสร้าง API
Node.js นิยมใช้ในการสร้าง RESTful API เพื่อการจัดการข้อมูลระหว่าง Client และ Server ตัวอย่างโค้ดเบื้องต้นในการสร้าง API อาจมีลักษณะดังนี้:
const express = require('express');
const app = express();
app.use(express.json());
app.get('/api/items', (req, res) => {
// คำสั่งสำหรับดึงข้อมูลทั้งหมด
res.send('ดึงข้อมูลของ Items ทั้งหมด');
});
app.get('/api/items/:id', (req, res) => {
// คำสั่งสำหรับดึงข้อมูลเฉพาะตาม ID
res.send('ดึงข้อมูลของ Item ด้วย ID: ' + req.params.id);
});
app.post('/api/items', (req, res) => {
// คำสั่งสำหรับเพิ่มข้อมูลใหม่
res.send('เพิ่ม Item ใหม่: ' + req.body.name);
});
const port = process.env.PORT || 3000;
app.listen(port, () => {
console.log(`Listening on port ${port}...`);
});
คำถามให้ทบทวน
ในขณะที่ Node.js มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ในกรณีที่ต้องการประมวลผลที่เกี่ยวข้องกับ CPU-bound tasks ที่อาจทำให้เกิดปัญหาในการบล็อกโค้ด (Code Blocking) การเลือกใช้ Node.js จึงควรพิจารณาถึงลักษณะงาน และความต้องการโดยรอบภาพ
ในการเริ่มต้นศึกษา Node.js หรือแม้กระทั่งภาษาเขียนเว็บไซต์อื่น ๆ ควรมีการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน รวมทั้งการคิดทบทวนถึงแอปพลิเคชันและบริการที่ตนเองต้องการพัฒนา หากคุณสนใจประเด็นเหล่านี้และต้องการศึกษาโดยลึกซึ้งยิ่งขึ้น, การเรียนรู้กับสถาบันที่มีประสบการณ์ เช่น ที่โรงเรียนสอนการเขียนโปรแกรม EPT อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยเพิ่มพูนทักษะการเขียนโปรแกรม เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันอย่างมีประสิทธิภาพได้.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM