สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com
วันนี้เราจะพูดถึงหัวข้อที่สำคัญสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วไปและนักศึกษาที่เคยเคยได้ยินเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม หนึ่งในนั้นคือ OOP หรือ Object-Oriented Programming ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมอย่างแพร่หลาย ในบทความนี้ จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 5 ประโยชน์สำคัญของ OOP ที่จะทำให้คุณเปลี่ยนวิธีการเขียนโค้ดของคุณได้มากขึ้น
1. การจัดการโค้ดที่เป็นระบบเป็นจุดเด่นที่ OOP นำเสนอเพื่อช่วยให้การจัดการโค้ดที่เป็นระบบมีความสะดวกมากขึ้น โดย OOP ช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถแบ่งโปรแกรมออกเป็นส่วนย่อย หรือ Objects ที่สื่อสารกันและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้การเขียนโค้ดมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและง่ายต่อการดูแลรักษา ตัวอย่างเช่น การพัฒนาโปรแกรมที่มีโครงสร้างการทำงานซับซ้อน เช่น โปรแกรมบริหารโรงงาน หรือ ระบบจัดการฐานข้อมูล เป็นต้น
2. การนำเทคนิคแบบ Object-Oriented มาใช้จะช่วยให้โค้ดมีคุณภาพดีขึ้นการแบ่งโปรแกรมออกเป็นส่วนย่อย ทำให้ผู้พัฒนาสามารถทำ TDD (Test-Driven Development) ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้โค้ดมีคุณภาพดีขึ้น และมีความเสถียรที่สูงกว่า นอกจากนี้ ยังช่วยให้การทำงานแก่โปรแกรมเมอร์ที่มีผลต่อคุณภาพของโค้ดที่ถูกพัฒนาขึ้น
3. การใช้ OOP ทำให้การเปลี่ยนแปลงโค้ดทำได้ง่ายขึ้นในช่วงการพัฒนาซอฟต์แวร์ การเปลี่ยนแปลงโค้ดเป็นสิ่งที่ทุกๆ โปรแกรมเมอร์ต้องเผชิญหน้า เพราะทุกๆ ครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงโค้ด อาจจะทำให้เกิดปัญหาการทำงานที่ไม่คาดคิดได้ แต่กับ OOP การเปลี่ยนแปลงโค้ดจะไม่ทำให้โปรแกรมในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องเสียหาย ทำให้การเปลี่ยนแปลงโค้ดทำได้ง่ายและมีความปลอดภัยกว่า
4. ย่อยลงชั้นง่ายการใช้ OOP ทำให้การนึกคิดและการเขียนโค้ดนั้นง่ายขึ้น เพราะจะต้องนึกถึงและเขียนโค้ดให้เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และนักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถใช้ Objects ที่ถูกสร้างไว้แล้วอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การพัฒนาโปรแกรมที่มีคุณภาพที่สูงขึ้น
5. ป้องกันการกระทบต่ออำนาจทุกๆ Objects มีความไม่ลงตัว และสามารถทำงานอย่างอิสระตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดให้ ทำให้การทำงานของ Objects ที่ถูกสร้างขึ้นของโปรแกรมไม่กระทบต่อกัน ช่วยลดความซับซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นในการพัฒนาโปรแกรมที่มีขนาดใหญ่
ในสรุป OOP หรือ Object-Oriented Programming นั้นมีคุณสมบัติที่ทำให้โปรแกรมนั้นมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการโค้ดที่มีความซับซ้อน เปลี่ยนแปลงในโค้ด คุณภาพของโค้ด การทำงานที่ไม่กระทบต่อกัน และการพัฒนาโปรแกรมที่มีคุณภาพดี
ถ้าหากคุณต้องการที่จะลองใช้ OOP ในการเขียนโค้ด ผมขอแนะนำให้ลองใช้ภาษา Python ซึ่งเป็นภาษาที่เหมาะสมสำหรับการใช้ OOP โดยมี syntax ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ใช้งานง่าย ตัวอย่างเช่น
class Animal:
def __init__(self, name, species):
self.name = name
self.species = species
def make_sound(self):
pass
class Dog(Animal):
def make_sound(self):
return "Woof!"
class Cat(Animal):
def make_sound(self):
return "Meow!"
ในตัวอย่างด้านบนนี้ เราสามารถสร้าง Objects ของ Dog หรือ Cat และเรียกใช้ method make_sound ที่เป็น abstract method ที่ถูกสร้างขึ้นใน class แม่ของมันได้
ภายในคลาส Dog และ Cat นั้นก็ยังสามารถสืบทอด method จากคลาส Animal ได้อีกด้วย
นี่คือเพียงเทคนิคการใช้ OOP ในภาษา Python ที่เด่นที่สุด เทคนิคนี้จะช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถจัดการโค้ดที่ซับซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้น หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับ 5 ประโยชน์ของ OOP ที่จะเปลี่ยนวิธีการเขียนโค้ดของคุณ ตอนนี้คุณคงพร้อมที่จะลองใช้ OOP ในการพัฒนาโปรแกรมของคุณแล้วล่ะ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: oop object-oriented_programming coding software_development python tdd test-driven_development code_quality code_flexibility code_maintenance code_structure programming_paradigm software_engineering code_organization inheritance
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com