Endianness เป็นคำศัพท์ที่อาจทำให้หลายคนในวงการโปรแกรมเมอร์งงงวย แต่เมื่อเข้าใจแล้ว จะพบว่ามันเป็นความรู้พื้นฐานที่สำคัญในการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำงานกับระบบที่หลากหลายหรือระดับโลว์เลเวลเช่นการเขียนโค้ดที่อิงกับฮาร์ดแวร์เฉพาะเจาะจง
Endianness หมายถึงลำดับที่คอมพิวเตอร์เก็บและอ่านข้อมูลที่มีขนาดมากกว่าหนึ่งไบต์ (เช่น 16-บิต, 32-บิต, 64-บิต) ในหน่วยความจำ มีสองรูปแบบหลัก ได้แก่ Big Endian และ Little Endian
**Big Endian** คือการเก็บข้อมูลโดยไบต์ที่มีค่ามากที่สุด (Most Significant Byte - MSB) ไว้ที่อยู่หน่วยความจำที่ต่ำที่สุด ขณะที่ **Little Endian** กลับกันคือไบต์ที่มีค่าน้อยที่สุด (Least Significant Byte - LSB) จะอยู่ที่อยู่หน่วยความจำต่ำสุด
#### ประโยชน์ของ Endianness ในการเขียนโปรแกรม
Endianness เกี่ยวข้องโดยตรงกับวิธีที่ผู้เขียนโปรแกรมต้องจัดการข้อมูลระหว่างระบบต่างๆ ดังนั้นจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ในหลายมิติ ตั้งแต่การรับส่งไฟล์, การทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์, การเขียนโปรแกรมฝังในระบบ (embedded system) ไปจนถึงการสร้างระบบจำลอง (simulation) นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในการทำความเข้าใจโปรโตคอลการสื่อสารและการเข้ารหัสข้อมูล
##### การสื่อสารข้ามแพลตฟอร์ม
เมื่อทำงานกับระบบที่มีความแตกต่างเรื่อง Endianness นักพัฒนาต้องแปลงข้อมูลให้สามารถอ่านได้ถูกต้องตามมาตรฐานของแต่ละระบบ นี่คือสาเหตุที่พวกเขาต้องมีความรู้เรื่อง Endianness เพื่อรับมือกับข้อมูลที่ถูกส่งไปมาระหว่างอุปกรณ์ที่ต่างระบบกัน
##### การออกแบบโปรโตคอล
หลายโปรโตคอลเครือข่ายกำหนดให้ใช้ Big Endian เพื่อการแปลงข้อมูล ทำให้นักพัฒนาจำเป็นต้องเข้าใจหลักการของ Endianness เพื่อออกแบบโปรโตคอลที่สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นบนเครือข่าย
##### การพัฒนาซอฟต์แวร์โลว์เลเวล
นักพัฒนาที่ทำงานกับซอฟต์แวร์ที่ใกล้ชิดกับฮาร์ดแวร์ เช่นไดรเวอร์ หรือระบบปฏิบัติการ จำเป็นต้องเข้าใจ Endianness เพื่อให้สามารถจัดการข้อมูลบนฮาร์ดแวร์ที่มีความแตกต่างกันได้อย่างแม่นยำ
#### ตัวอย่างความสำคัญของ Endianness พร้อมโค้ดตัวอย่าง
การพิจารณา Endianness เป็นสิ่งสำคัญเมื่อนำข้อมูลที่มาจากระบบหนึ่งไปใช้กับอีกระบบหนึ่ง เช่น การประมวลผลไฟล์ที่ถูกสร้างขึ้นบน Little Endian เช่นเครื่อง PC บนระบบ Big Endian เช่นบางเซิร์ฟเวอร์
#include
// ตรวจสอบ Endianness ของระบบ
int checkEndianness() {
unsigned int i = 1;
char *c = (char*)&i;
if (*c)
return LITTLE_ENDIAN;
else
return BIG_ENDIAN;
}
int main() {
int endianType = checkEndianness();
if (endianType == LITTLE_ENDIAN) {
printf("ระบบคอมพิวเตอร์นี้เป็น Little Endian.\n");
} else {
printf("ระบบคอมพิวเตอร์นี้เป็น Big Endian.\n");
}
return 0;
}
จากโค้ดตัวอย่างข้างต้น สามารถช่วยให้เข้าใจกลไกพื้นฐานของการตรวจจับ Endianness ซึ่งประโยชน์ของการทราบ Endianness มีมากมาย รวมถึงการสื่อสารข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์มที่ต่างกัน การจัดและการอ่านชุดข้อมูลขนาดใหญ่ และการพัฒนาซอฟต์แวร์ในระดับที่ใกล้กับฮาร์ดแวร์เป็นต้น
การเรียนรู้เรื่อง Endianness เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมให้กว้างขวาง โดยไม่ต้องเสนอ "hard sell" ใด ๆ เราสามารถเห็นได้ว่าความรู้นี้สำคัญไม่ต่างจากการเรียนรู้ภาษาโปรแกรมเมอร์หรือแนวคิดอื่น ๆ ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ไม่ว่าคุณจะศึกษาด้วยตนเองหรือในสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงก็ตาม การทำความเข้าใจแนวคิดเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารหัสและทำงานกับข้อมูลในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นได้แน่นอน.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: endianness โปรแกรม ข้อมูล big_endian little_endian การเขียนโปรแกรม ระบบ ฮาร์ดแวร์ การสื่อสารข้ามแพลตฟอร์ม การออกแบบโปรโตคอล ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ ระบบจำลอง การพัฒนา คอมพิวเตอร์
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com