ในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ หลักการหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญก็คือหลักการ DRY หรือ "Don’t Repeat Yourself" (อย่าทำซ้ำตัวเอง) ซึ่งถูกนำเสนอขึ้นโดย Andy Hunt และ Dave Thomas ในหนังสือ "The Pragmatic Programmer" ทำไมหลักการนี้ถึงสำคัญนัก? และมันส่งผลต่อการเขียนโปรแกรมอย่างไร? บทความนี้จะนำท่านไปสำรวจความลึกของหลักการ DRY และตัวอย่างการนำไปใช้ในการเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพ และอย่าลืม หากคุณต้องการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมด้วยตัวเอง โรงเรียน EPT พร้อมเป็นพันธมิตรในการเรียนรู้ของคุณเสมอ!
DRY, "Don’t Repeat Yourself", เป็นหลักการที่กล่าวว่า "ทุกครั้งที่ข้อมูล, โครงสร้าง, หรือโปรเซสมีการซ้ำกันมากกว่าหนึ่งที่ถือว่าเป็นการทำซ้ำที่ไม่ควรมี" หลักการนี้เข้มข้นในประเด็นของการลดการซ้ำซ้อนของโค้ดหรือคอมโพเนนต์ใดๆ ในระบบซอฟต์แวร์ เพื่อลดภาระในการบำรุงรักษา และเพิ่มความสามารถในการปรับแต่งที่ง่ายขึ้น
การใช้หลักการ DRY นำมาซึ่งประโยชน์หลายประการ:
1. ลดความซ้ำซ้อนของโค้ด: ช่วยให้โค้ดสะอาดขึ้น ง่ายต่อการอ่าน และลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาด 2. แก้ไขง่ายขึ้น: เมื่อโค้ดไม่ซ้ำซ้อน การแก้ไขหรือปรับปรุงจะทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเราไม่ต้องไปแก้ไขที่หลายๆ ที่ 3. ประหยัดเวลา: การไม่ต้องเขียนโค้ดเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำอีก ช่วยให้นักพัฒนาประหยัดเวลา สามารถใช้เวลานั้นไปพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ แทน
เพื่อให้เห็นภาพของการนำหลักการ DRY ไปใช้ ลองพิจารณาตัวอย่างโค้ดด้านล่าง:
# ตัวอย่างโค้ดที่ไม่ปฏิบัติตาม DRY
def print_student_grade(student_scores):
for score in student_scores:
if score >= 80:
print("Grade: A")
elif score >= 70:
print("Grade: B")
elif score >= 60:
print("Grade: C")
else:
print("Grade: F")
# ลองใช้ฟังก์ชันนี้ในการคำนวณผลการเรียนของนักเรียนหลายคน
print_student_grade([75, 90])
print_student_grade([45, 82])
ในโค้ดข้างต้น เราเห็นว่าโลจิกในการแสดงผลเกรดถูกเขียนซ้ำหลายครั้ง ในทางกลับกัน เราสามารถทำให้โค้ดนี้ปฏิบัติตาม DRY ได้ดังนี้:
# ตัวอย่างโค้ดที่ปฏิบัติตาม DRY
def determine_grade(score):
if score >= 80:
return "Grade: A"
elif score >= 70:
return "Grade: B"
elif score >= 60:
return "Grade: C"
else:
return "Grade: F"
def print_student_grade(student_scores):
for score in student_scores:
print(determine_grade(score))
# ใช้ฟังก์ชันที่ปรับปรุงแล้ว
print_student_grade([75, 90])
print_student_grade([45, 82])
ในโค้ดที่ปรับปรุงนี้ เราได้สร้างฟังก์ชัน `determine_grade()` เพื่อรับผิดชอบต่อการจำแนกเกรด ซึ่งช่วยให้เราไม่ต้องเขียนโค้ดเดิมซ้ำหลายครั้ง
DRY ไม่เพียงแค่ใช้กับการเขียนโค้ดเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในด้านวิชาการด้วย การไม่ทำซ้ำตัวเองแสดงถึงการคิดอย่างมีระบบ การออกแบบโครงสร้างที่มีคุณภาพ และการสื่อสารที่ชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถปรับใช้กับกระบวนการเรียนการสอนได้
ในโรงเรียน EPT นักเรียนจะได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของหลักการ DRY โดยตรง เราสอนว่าการเขียนโค้ดไม่ควรมองเพียงแค่การทำให้โปรแกรมทำงานได้เท่านั้น แต่โค้ดที่ดีควรมีคุณภาพ และยืดหยุ่นสามารถพัฒนาต่อยอดได้ในอนาคต
หลักการ DRY มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยช่วยลดความซ้ำซ้อน ปรับแต่งง่าย และประหยัดเวลา การนำหลักการนี้ไปใช้จะช่วยยกระดับคุณภาพของโปรแกรมและวิธีคิดของนักพัฒนา เพื่อสร้างผลงานที่มีประสิทธิผลและคงทนต่อการเปลี่ยนแปลง และที่ EPT เรามุ่งมั่นที่จะส่งต่อความรู้และหลักการนี้ให้แก่ผู้เรียน เพื่อเตรียมพร้อมให้พวกเขาเป็นนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญและมีมาตรฐานสูงในอนาคต.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM