หัวข้อ: การเรียกใช้งาน instance function ใน TypeScript อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด?
ภาษา TypeScript เป็นภาษาโปรแกรมที่มีความสามารถในการเขียนโปรแกรมอย่างเป็นระเบียบและเข้มงวดมากขึ้นเมื่อเทียบกับ JavaScript ด้วยคุณสมบัติของการกำหนด Type หรือชนิดข้อมูลแบบชัดเจน หนึ่งในความสามารถที่น่าสนใจของ TypeScript คือการใช้งาน instance function ที่อยู่ภายใน class ซึ่งจะช่วยให้การเขียนโค้ดเป็นไปอย่างมีระเบียบและง่ายต่อการจัดการในภายหลัง
Instance function คือฟังก์ชันที่ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับ object (instance) แต่ละตัวจาก class ที่ถูกนิยามขึ้น ฟังก์ชันเหล่านี้เป็นทรัพยากรที่สามารถเรียกใช้งานได้โดยตรงจาก object นั้นๆ และมีสิทธิ์เข้าถึง properties ภายใน object เดียวกัน
class Greeter {
greeting: string;
constructor(message: string) {
this.greeting = message;
}
greet() {
return "Hello, " + this.greeting;
}
}
let greeter = new Greeter("world");
console.log(greeter.greet()); // Output: "Hello, world"
ในตัวอย่างนี้ `greet` เป็น instance function ซึ่งเราสามารถเรียกใช้งานผ่าน object ที่ชื่อว่า `greeter` ได้โดยตรง และฟังก์ชันนี้จะเข้าถึง property `greeting` เพื่อส่งค่ากลับมาเป็นข้อความทักทาย
class Counter {
private count: number = 0;
increment() {
this.count++;
}
decrement() {
this.count--;
}
getCount() {
return this.count;
}
}
let counter = new Counter();
counter.increment();
counter.increment();
console.log(counter.getCount()); // Output: 2
counter.decrement();
console.log(counter.getCount()); // Output: 1
ในตัวอย่างนี้เราสร้าง instance function ที่ช่วยในการจัดการ state ภายใน object การเพิ่มหรือลดค่านับ และการสืบค้นค่าปัจจุบันของนับผ่าน `getCount` นั่นแสดงถึงความสามารถในการห่อหุ้มหรือ encapsulation ที่ดีของ OOP
class Book {
title: string;
author: string;
constructor(title: string, author: string) {
this.title = title;
this.author = author;
}
describe() {
return `This book is "${this.title}" by ${this.author}.`;
}
}
class Library {
private books: Book[] = [];
addBook(book: Book) {
this.books.push(book);
}
describeBooks() {
this.books.forEach(book => {
console.log(book.describe());
});
}
}
let library = new Library();
library.addBook(new Book("The Hobbit", "J.R.R. Tolkien"));
library.addBook(new Book("1984", "George Orwell"));
library.describeBooks();
ในตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นวิธีการที่สอง class สามารถทำงานร่วมกันภายใต้หลักการของ OOP โดย `Library` ใช้ instance function `describeBooks` เพื่อเรียก `describe` ของ `Book`
หนึ่งใน usecase ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน instance function คือการพัฒนาระบบการจัดการคำสั่งซื้อสินค้า (Order Management System) ที่ตัวสินค้า (Product) มีฟังก์ชันในการคำนวณราคา และตัวคำสั่งซื้อ (Order) มีฟังก์ชันเพื่อเพิ่มสินค้าเข้าไปในคำสั่งซื้อและคำนวณราคารวม
การที่คุณสามารถเข้าถึงตัวอย่างการทำงานของ instance function ตลอดจนหลักการใช้งานในโลกจริงได้นั้นเป็นสิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้จากหลักสูตรที่โรงเรียนของเรา EPT และนี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความรู้ที่คุณจะได้เมื่อเข้าร่วมกับเรา การเรียนรู้ภาษาโปรแกรมมิ่งที่มีโครงสร้างและเป็นระบียบเช่น TypeScript นั้นจะไม่เพียงแต่ทำให้คุณพัฒนาแอพพลิเคชันได้อย่างมีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างทักษะในการคิดเชิงวิเคราะห์, แก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีมได้อีกด้วย
ที่ EPT คุณจะได้เรียนรู้ไม่เพียงแต่เรื่องรหัสโค้ด แต่ยังรวมถึงการนำไปประยุกต์ใช้งานในสถานการณ์จริง หากคุณต้องการเตรียมตัวสำหรับอาชีพที่มุ่งมั่นในวงการเทคโนโลยี หลักสูตรของเรารอคุณอยู่!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM