การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (OOP: Object-Oriented Programming) เป็นรูปแบบหนึ่งของการออกแบบและการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถจัดสรรโคดผ่านการแบ่งแยกองค์ประกอบและฟังก์ชันลงในวัตถุ (objects) ที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ โครงสร้างนี้ช่วยให้การพัฒนาโปรแกรมทำได้ง่ายขึ้น, การบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพ และการขยายขอบเขตของโปรแกรมให้ใหญ่ขึ้นได้อย่างง่ายดาย
Node.js เป็นสิ่งแวดล้อมการทำงานของ JavaScript ที่ใช้งานได้ทั้งฝั่งเซิร์ฟเวอร์และแอปพลิเคชันเน็ตเวิร์ค ซึ่งรองรับการเขียนโปรแกรมแบบ OOP ซึ่งลองมาดูการใช้งาน OOP ใน Node.js แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง Code
class Car {
constructor(brand, model) {
this.brand = brand;
this.model = model;
}
displayDetails() {
console.log(`${this.brand} ${this.model}`);
}
}
const myCar = new Car('Toyota', 'Corolla');
myCar.displayDetails(); // Output: Toyota Corolla
ในตัวอย่างเบื้องต้นนี้, `Car` คือคลาสที่มีสองโปรเพอร์ตี้คือ `brand` และ `model` ตามด้วยเมธอด `displayDetails()` ที่ใช้ในการแสดงข้อมูลรถยนต์ดังกล่าว
class ElectricCar extends Car {
constructor(brand, model, batteryCapacity) {
super(brand, model);
this.batteryCapacity = batteryCapacity;
}
displayBatteryCapacity() {
console.log(`Battery Capacity: ${this.batteryCapacity}`);
}
}
const myTesla = new ElectricCar('Tesla', 'Model S', '100kWh');
myTesla.displayDetails(); // Output: Tesla Model S
myTesla.displayBatteryCapacity(); // Output: Battery Capacity: 100kWh
ในตัวอย่างนี้, `ElectricCar` คือคลาสที่สืบทอดมาจาก `Car` พร้อมทั้งเพิ่มโปรเพอร์ตี้ `batteryCapacity` และเมธอด `displayBatteryCapacity()` สำหรับแสดงความจุแบตเตอรี่
class Smartphone {
constructor(brand, model) {
this.brand = brand;
this.model = model;
this._isOn = false;
}
turnOn() {
this._isOn = true;
console.log(`${this.brand} ${this.model} is turned on.`);
}
turnOff() {
this._isOn = false;
console.log(`${this.brand} ${this.model} is turned off.`);
}
}
const myPhone = new Smartphone('Apple', 'iPhone 13');
myPhone.turnOn(); // Output: Apple iPhone 13 is turned on.
myPhone.turnOff(); // Output: Apple iPhone 13 is turned off.
`Smartphone` คือคลาสที่มีฟังก์ชันเพิ่มเปิดและปิดเครื่อง โดยเราจะเห็นว่าการเปิดหรือปิดเครื่องจะควบคุมในคลาสด้วยการกำหนดสถานะ `_isOn`
OOP ถูกใช้งานในการพัฒนาซอฟต์แวร์หลายประเภท ตั้งแต่เว็บแอปพลิเคชัน, ระบบฐานข้อมูล, แอปพลิเคชันมือถือไปจนถึงเกม เช่น การสร้างระบบการจัดการสินค้าในคลัง (Inventory System) หรือการออกแบบแอปพลิเคชันสำหรับการจองที่พัก (Hotel Reservation Application) ที่ต่างก็ใช้รูปแบบ OOP เพื่อจัดการกับข้อมูลและการทำงานต่างๆอย่างมีระเบียบ
หากคุณต้องการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมด้วย OOP ใน Node.js หรือภาษาอื่นๆเพิ่มเติม, ที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) เรามีหลักสูตรและความช่วยเหลือที่พร้อมจะทำให้คุณเข้าใจหลักการทำงานและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างช่ำชองในโลกปัจจุบันที่ทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: oop object-oriented_programming node.js class inheritance encapsulation javascript programming code_example real-world_usecase software_development web_application mobile_application expert_programming_tutor
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com