การใช้งาน Parameter ของฟังก์ชันในภาษา Node.js แบบง่าย ๆ พร้อมตัวอย่าง CODE และอธิบายการทำงาน

การเรียนรู้การเขียนโปรแกรมเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะการเขียนโปรแกรมในภาษา JavaScript ซึ่งเป็นภาษาหลักที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันฝั่งหน้า (Frontend) และฝั่งหลัง (Backend) ในโลกของ Node.js ที่หมุนรอบการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ Server-Side

หนึ่งในคุณสมบัติของฟังก์ชันที่มีความสำคัญ และเป็นพื้นฐานที่ช่วยในการทำงานได้ง่ายขึ้นก็คือ “parameter” หรือตัวแปรที่ใช้เพื่อส่งค่าหรือข้อมูลเข้าสู่ฟังก์ชัน เพื่อให้ฟังก์ชันนั้นสามารถทำงานได้เป็นไปอย่างต้องการ

จริงหรือไม่? ฟังก์ชัน Parameter ส่งผลต่อการเขียนโปรแกรม

ใน JavaScript รวมถึง Node.js การใช้ parameters ในฟังก์ชันเป็นแนวทางที่ทำให้การเขียนโปรแกรมมีความยืดหยุ่น สามารถใช้งานฟังก์ชันเดียวกัน แต่เปลี่ยนค่าที่ส่งเข้ามาได้ตามต้องการ ซึ่งช่วยลดความซ้ำซ้อนในการเขียนโค้ด

การสร้างฟังก์ชันที่ใช้ Parameter

มาดูตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชันที่มี parameters กัน

 // ฟังก์ชันที่รับพารามิเตอร์สองตัว
function greetUser(name, age) {
    console.log(`สวัสดี ${name} คุณอายุ ${age} ปี`);
}

// เรียกใช้งานฟังก์ชัน
greetUser("สมศักดิ์", 25);
greetUser("จันทร์จิรา", 30);

ในตัวอย่างข้างต้น ฟังก์ชัน `greetUser` รับพารามิเตอร์ `name` และ `age` ที่ใช้เพื่อแสดงข้อความต้อนรับผู้ใช้ เมื่อเราทำการเรียกใช้งานฟังก์ชันโดยการส่งค่าเข้าไป ตัวฟังก์ชันจะทำงานและแสดงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับค่าที่เราส่งเข้าไป

Parameter แบบ Optional

นอกจากนี้ ใน JavaScript มันยังอนุญาตให้เราสามารถตั้งค่า default value หรือค่าสำหรับ parameter ที่ไม่จำเป็นก็ได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาถ้าหากเราลืมใส่ค่าที่ต้องการเข้าไป

 function greetUser(name = "ผู้ใช้", age = "ไม่ระบุ") {
    console.log(`สวัสดี ${name} คุณอายุ ${age} ปี`);
}

// เรียกใช้งานฟังก์ชันโดยไม่ใส่พารามิเตอร์
greetUser(); // จะแสดงผล: สวัสดี ผู้ใช้ คุณอายุ ไม่ระบุ ปี

ที่นี่เราได้เพิ่ม parameter defaults เพื่อให้ฟังก์ชันสามารถทำงานได้แม้จะไม่มีการส่งค่ามา

Use Case ในโลกจริง

ในชีวิตประจำวันของการพัฒนาแอปพลิเคชัน อาจจะมีกรณีการใช้งาน parameter ที่จริงจังมากขึ้น เช่น การสร้าง API ที่ส่งข้อมูล หรือการประมวลผลข้อมูลจากผู้ใช้ นี่คือตัวอย่างการสร้าง API ที่รับค่า input จากผู้ใช้

 // ใช้ Express.js ในการสร้าง server
const express = require('express');
const app = express();
const PORT = 3000;

app.use(express.json());

app.post('/user', (req, res) => {
    const { name, age } = req.body; // รับค่าจาก request body
    res.send(`สวัสดี ${name} คุณอายุ ${age} ปี`);
});

app.listen(PORT, () => {
    console.log(`Server is running on http://localhost:${PORT}`);
});

ในตัวอย่างนี้ เราใช้ `Express.js` เพื่อสร้าง API endpoint ที่รับค่าชื่อและอายุจากผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้ส่งข้อมูลไปยัง endpoint นี้ผ่านวิธีการ POST ฟังก์ชันจะดึงค่าจาก body ของ request และส่งข้อความกลับไปยังผู้ใช้

การจัดการ Error กับ Parameters

สิ่งสำคัญอีกประการในการใช้งาน parameters คือการทำให้มั่นใจว่าค่าที่รับเข้ามานั้นถูกต้อง ซึ่งการตรวจสอบว่า user input เป็นไปตามที่เราคาดหวังมักจะเป็นสิ่งที่ต้องทำเสมอ

 app.post('/user', (req, res) => {
    const { name, age } = req.body;

    // ตรวจสอบว่า name และ age มีค่าเป็นจริง
    if (!name || !age || isNaN(age)) {
        return res.status(400).send("กรุณาระบุชื่อและอายุที่ถูกต้อง");
    }

    res.send(`สวัสดี ${name} คุณอายุ ${age} ปี`);
});

ในตัวอย่างนี้ เราเพิ่มการตรวจสอบค่า input เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการทำงานของฟังก์ชัน

สรุป

การใช้ parameters ในฟังก์ชันถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเขียนโปรแกรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Node.js ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน การทำความเข้าใจกับการรับค่าเข้ามาจะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมและเชื่อมต่อกับผู้ใช้ได้ดี

การศึกษาไม่สิ้นสุดที่นี้! เริ่มต้นได้เล่า!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง