ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การพัฒนาโปรแกรมได้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะแนวทางการเขียนโปรแกรมแบบวัตถุ (Object-Oriented Programming - OOP) ซึ่งช่วยทำให้การจัดการกับโค้ดเป็นระบบมากขึ้น โดย OOP มีแนวคิดสำคัญหลายประการ เช่น inheritance, encapsulation, polymorphism ซึ่งช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถสร้างโค้ดที่มีความยืดหยุ่นและง่ายต่อการบำรุงรักษา ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจการใช้งาน accessibility ใน OOP โดยเฉพาะใน Node.js พร้อมทั้งตัวอย่างโค้ดและอธิบายการทำงานของมัน
Accessibility ใน OOP หมายถึง ระดับการเข้าถึงข้อมูลหรือฟังก์ชันภายในคลาส โดยหลักการทั่วไปมีสามระดับคือ:
1. Public: สามารถเข้าถึงได้จากภายนอกคลาส 2. Private: สามารถเข้าถึงได้เฉพาะจากภายในคลาสเท่านั้น 3. Protected: สามารถเข้าถึงได้จากคลาสพ่อแม่หรือคลาสที่สืบทอดเท่านั้น
มาลองตัวอย่างการสร้างคลาสใน Node.js ที่แสดงให้เห็นถึง accessibility ใน OOP กัน
ตัวอย่างโค้ด
อธิบายการทำงาน
1. Public - ค่า `name` เป็น Public Property ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากภายนอกคลาส ที่ผู้ใช้สามารถสร้างอินสแตนซ์ของคลาส `Animal` และเข้าถึง `name` ได้ 2. Protected - ค่า `_type` ถูกตั้งเป็น Protected-like เพื่อให้รู้ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงได้จากคลาสที่สืบทอด (in this case, `Dog`) สำหรับการกำหนดค่าของประเภทสัตว์ 3. Private - ค่า `#sound` ตั้งเป็น Private Property ซึ่งสามารถเข้าถึงได้เฉพาะในคลาส `Animal` และวิธีการ `makeSound()` หรือ `setSound()` เท่านั้น ซึ่งมีความปลอดภัยจากการเข้าถึงภายนอก
แนวคิดของ accessibility มีบทบาทสำคัญในหลาย ๆ ด้านของการพัฒนาโปรแกรม เช่น:
- การพัฒนาโมดูลในโปรเจคขนาดใหญ่ - ในโปรเจคที่มีหลายทีมทำงานร่วมกัน การใช้ accessibility ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลหรือฟังก์ชันต่าง ๆ ที่สำคัญไม่ถูกเปลี่ยนแปลงจากที่ไม่ควร - การสร้าง API - ในการพัฒนา API การกำหนดให้ฟังก์ชันบางตัวเป็น Private ช่วยในการซ่อนข้อมูลที่สำคัญไม่ให้คนใช้งาน API ทำการเปลี่ยนแปลงแบบไม่ได้รับอนุญาต - การพัฒนา Application - ในแอปพลิเคชันที่ซับซ้อน การใช้ OOP และ accessibility ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างคลาสเป็นระบบและปลอดภัยมากขึ้น
แน่นอนว่าการเข้าใจ OOP และ Accessibility เป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้การเขียนโปรแกรม หากคุณอยากเสริมสร้างทักษะในการเขียนโปรแกรมและ OOP เพื่อให้พร้อมสำหรับการทำงานในอุตสาหกรรม เราขอเชิญชวนคุณมาศึกษาโปรแกรมการเรียนการสอนที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ซึ่งมีคอร์สเรียนที่เหมาะสำหรับทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือนักพัฒนาโปรแกรมที่มีประสบการณ์
โค้ดเพียงเล็กน้อยที่เราได้แสดงให้เห็นในวันนี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ใน EPT คุณจะได้เรียนรู้แนวคิดทางทฤษฎีและการปฏิบัติจริง ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความเชี่ยวชาญและความรู้ที่ถูกต้องในการพัฒนาโปรแกรม
Accessibility เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของ OOP ที่ช่วยให้การจัดการข้อมูลและวิธีการในโปรแกรมเป็นไปอย่างมีระเบียบและปลอดภัย ตัวอย่างที่เราได้ชมใน Node.js แสดงถึงการใช้ accessibility ที่ถูกต้องและมีประโยชน์ในโปรแกรมจริง หากคุณสนใจใน Programming แนวทาง OOP การสมัครเรียนที่ EPT คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด!
- คอร์สเรียนเข้าใจง่าย ไม่ว่าคุณจะไม่มีพื้นฐาน
- ทีมผู้สอนที่มีประสบการณ์และพร้อมให้คำปรึกษา
- กลุ่มเรียนที่สร้างโอกาสในการทำงานร่วมกับเพื่อนๆ
- สื่อการสอนที่ทันสมัยและเข้าถึงง่าย
อย่าลังเลที่จะก้าวแรกของคุณในโลกของการพัฒนาโปรแกรม ด้วยการเรียนรู้ที่ EPT!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com