ในการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ด้วยภาษา JavaScript, การเขียนโค้ดที่สะอาดและมีมาตรฐานเป็นสิ่งที่พัฒนาเว็บไซต์ทุกคนควรให้ความสนใจ เพราะโค้ดที่ดีไม่ใช่เพียงแค่ทำงานได้ตามที่คาดหวังเท่านั้น แต่ยังต้องมีการจัดการที่ดี อ่านง่าย และปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต เราจะมาดู 5 Coding Standards สำคัญที่จะทำให้ JavaScript ของคุณนั้น clean ขึ้นมาก
การตั้งชื่อตัวแปร (Variables), ฟังก์ชัน (Functions), และคลาส (Classes) ที่ชัดเจนและสื่อความหมายได้ดีนั้นสำคัญมาก เพื่อช่วยให้ผู้อื่นสามารถเข้าใจโค้ดของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น ให้ใช้ camelCase สำหรับตัวแปรและฟังก์ชัน และใช้ PascalCase สำหรับการตั้งชื่อคลาส ตัวอย่างเช่น:
// ตัวแปร
let userCount = 0;
// ฟังก์ชัน
function calculateArea(width, height) {
return width * height;
}
// คลาส
class UserAccount {
constructor(username) {
this.username = username;
}
}
Comment สามารถช่วยให้ผู้พัฒนาเข้าใจวัตถุประสงค์ของโค้ดแต่ละส่วนได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ควรใช้มากจนเกินไป ใช้ comment เพื่ออธิบายส่วนของโค้ดที่ซับซ้อน หรือการตัดสินใจที่ไม่แน่ชัด อย่าใช้มันสำหรับโค้ดที่ชัดเจนอยู่แล้ว เช่น:
// นี่คือการอ่านค่าจากไฟล์ config - ไม่มีความจำเป็นเพราะโค้ดชัดเจนแล้ว
const config = readConfig();
// ประยุกต์ใช้ comment สำหรับส่วนที่ซับซ้อนหรือต้องการการอธิบายเพิ่มเติม
// เข้ารหัสข้อมูลผู้ใช้ก่อนที่จะส่งไปยัง backend
function encodeUserData(userData) {
// ตรงนี้การเข้ารหัสเฉพาะตัวด้วย library ที่ต้องการ
return secureEncode(userData);
}
การจัดโครงสร้างโปรแกรมให้ดูเรียบร้อยทำให้โค้ดต่างๆ ง่ายต่อการค้นหาและรักษา ควรจัดแยกโค้ดตามหน้าที่การทำงาน เช่น แยกโมดูลสำหรับใช้งาน API และ UI นอกจากนั้นยังควรใช้หลัก Single Responsibility ให้กับโค้ดต่างๆ เช่น:
// api.js สำหรับการจัดการ API
export const getUserData = (userId) => {
// โค้ดสำหรับเรียกข้อมูลผู้ใช้
};
// userInterface.js สำหรับการจัดการ UI
export const updateUserProfile = (userData) => {
// โค้ดสำหรับปรับปรุง UI ด้วยข้อมูลผู้ใช้
};
Tool เช่น ESLint และ Prettier ช่วยให้โค้ดของคุณมีมาตรฐานทั่วไป และลดการเกิดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนโค้ดที่ไม่สอดคล้องกัน สามารถตั้งค่าได้เพื่อให้ตรวจสอบและจัดรูปแบบโค้ดของคุณในแต่ละครั้งที่คุณ commit โค้ด การใช้งาน tool พวกนี้ร่วมกับการทำ Continuous Integration/Continuous Deployment (CI/CD) สามารถช่วยทำให้โค้ดมีคุณภาพสูงและลดโอกาสที่จะมี Bug พบเจอ
การมี Unit Tests และ Integration Tests เป็นการพิสูจน์ว่าโค้ดทำงานได้ดีตามที่ต้องการ ซึ่งสามารถได้ป้องกันการเปลี่ยนแปลงโค้ดที่อาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคต การเขียน tests ทำให้คุณมั่นใจในโค้ดของคุณมากยิ่งขึ้น และยังเป็นเอกสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อผู้พัฒนารายอื่นๆ ที่อาจจะต้องมาทำงานกับโค้ดของคุณในอนาคต
// adder.test.js
const add = require('./adder');
test('adds 1 + 2 to equal 3', () => {
expect(add(1, 2)).toBe(3);
});
การทำให้ JavaScript ของคุณ Clean นั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นและควรให้ความสำคัญ นอกจากจะช่วยให้โค้ดของคุณอ่านง่ายและบำรุงรักษาได้สะดวกแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นมืออาชีพของคุณ การเรียนรู้และปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้นับเป็นศิลปะที่พัฒนาเว็บไซต์ทุกคนควรมี และสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการเขียนโค้ดในระดับสูง การศึกษาที่โรงเรียนเช่น Expert-Programming-Tutor อาจจะเป็นก้าวสำคัญของคุณในการพัฒนาทักษะการเป็นนักพัฒนาที่ยอดเยี่ยมได้.
การเข้าร่วมเรียนรู้กับสถาบันที่มุ่งเน้นการสอนด้วยการปฏิบัติจริง มาพร้อมกับไกด์ไลน์จากผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้คุณสามารถนำมาตรฐานการเขียนโค้ดเหล่านี้ไปปรับใช้ในโปรเจ็กต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยการสนับสนุนจากชุมชนการเรียนรู้ จะทำให้คุณเติบโตได้เร็วขึ้นในเส้นทางอาชีพของคุณ.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM