การพัฒนาซอฟต์แวร์ในภาษา Java มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถสร้างโปรแกรมที่หลากหลายและมีคุณภาพได้ หนึ่งในนั้นคือการใช้โครงสร้างของวัตถุหรือ Object ที่เรียกว่า POJO (Plain Old Java Object) และ JavaBeans ซึ่งทั้งสองนี้เป็นตัวแทนของวัตถุในโปรแกรม Java ที่มีลักษณะและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะมาคลายข้อสงสัยว่า POJO กับ JavaBeans ต่างกันอย่างไร และทำไมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงควรทราบถึงความแตกต่างนี้
POJO คือตัวย่อมาจาก "Plain Old Java Object" บ่งบอกถึง Java object ที่ไม่มีข้อจำกัดพิเศษใดๆ จากเฟรมเวิร์กหรือคอนเทนเนอร์ เป็นวัตถุที่มีคุณสมบัติพื้นฐานของ Java สิ่งที่ทำให้ POJO พิเศษคือความเรียบง่ายและความสามารถในการเข้ากันได้กับส่วนต่างๆ ของโปรแกรมอย่างมีความยืดหยุ่นสูง
1. รักษาความเรียบง่าย ทำให้โค้ดเข้าใจง่าย
2. เพิ่มความสามารถในการทดสอบ (testability) เนื่องจากไม่พึ่งพาเฟรมเวิร์กภายนอก
3. มีความยืดหยุ่นสูงในการใข้งานร่วมกับเทคโนโลยีต่างๆ
JavaBeans คือคอมโพเนนท์ซอฟต์แวร์ในภาษา Java ที่ได้รับการสร้างขึ้นตามมาตรฐานบางอย่าง มีชุดของกฎเกณฑ์ที่สำคัญได้แก่ ความสามารถในการเข้าถึง properties ผ่าน getter และ setter, การใช้งาน constructor ที่ไม่มีอาร์กิวเมนต์, รวมไปถึงการสนับสนุน serialization ซึ่งเป็นการแปลงสถานะของวัตถุเป็นชุดข้อมูลที่สามารถจัดเก็บหรือส่งผ่านได้
1. มีมาตรฐานชัดเจน ทำให้ component สามารถใช้งานร่วมกันได้
2. รองรับการทำงานส่วนประกอบ (component-based work) ในเอนไตร์ไพรส์แอพพลิเคชั่น
สำหรับเรื่องนี้ การนำเสนอตัวอย่างโค้ดจะช่วยให้เห็นภาพของมาตรฐานและความต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น:
// POJO Example
public class Employee {
private String name;
private int age;
public Employee() {
}
public Employee(String name, int age) {
this.name = name;
this.age = age;
}
// Getter and Setter methods
public String getName() {
return name;
}
public void setName(String name) {
this.name = name;
}
public int getAge() {
return age;
}
public void setAge(int age) {
this.age = age;
}
}
// JavaBeans Example
import java.io.Serializable;
public class UserBean implements Serializable {
private String username;
private transient String password; // transient for not to serialize
public UserBean() {
}
// Getter and Setter methods following the JavaBeans standard
public String getUsername() {
return username;
}
public void setUsername(String username) {
this.username = username;
}
public String getPassword() {
return password;
}
public void setPassword(String password) {
this.password = password;
}
}
จากตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า POJO สามารถใช้เป็นตัวแทนของข้อมูลพนักงานแบบง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานใดๆ เจาะจง ในขณะที่ JavaBeans `UserBean` นั้นถูกสร้างขึ้นโดยปฏิบัติตามมาตรฐานของ JavaBeans รวมทั้งการใช้ `Serializable` สำหรับกระบวนการ serialization เช่น การจัดเก็บ state ของวัตถุลงในไฟล์หรือการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครื่องมือต่างๆ
การเข้าใจความต่างระหว่าง POJO และ JavaBeans ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเลือกใช้คอมโพเนนท์ที่เหมาะสมกับความต้องการของโปรเจค ว่าจำเป็นต้องใช้งานที่มีรูปแบบยืดหยุ่น หรือเป้นส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่นที่มีการกำหนดมาตรฐานอย่างชัดเจน
ที่ EPT – Expert-Programming-Tutor เราเข้าใจถึงความสำคัญของการเรียนรู้และการนำไปประยุกต์ใช้ในอาชีพของการพัฒนาซอฟต์แวร์ เราขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจในการเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์มืออาชีพ มาพัฒนาความรู้และทักษะการเขียนโปรแกรมกับเรา ไม่ว่าคุณจะสนใจ Java, POJO, JavaBeans, หรือเทคโนโลยีการเขียนโปรแกรมอื่นๆ EPT พร้อมที่จะเป็นผู้นำทางการศึกษา และเปิดประตูสู่โอกาสที่กว้างขวางในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ในอนาคต
ความรู้ทางการเขียนโปรแกรมนั้นไม่มีวันหมดสิ้น ไปก้าวต่อไปกับ EPT และสร้างความแตกต่างในอาชีพของคุณได้ตั้งแต่วันนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: pojo javabeans java programming object-oriented java_programming software_development mvc component-based_work serialization flexibility design_standard testability javaobjects java_class
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com