หัวข้อ: ORM (Object-Relational Mapping) คืออะไร และมีประโยชน์ในทางเขียนโปรแกรมอย่างไร
ในยุคที่ข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาซอฟต์แวร์ การจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพกลายเป็นสิ่งที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกคนจะต้องให้ความสนใจ หนึ่งในเทคนิคที่ช่วยให้การจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่นคือการใช้งาน 'ORM' หรือ Object-Relational Mapping ในบทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ ORM ว่าแท้ที่จริงแล้วมันคืออะไร และมีประโยชน์ในทางเขียนโปรแกรมอย่างไร
Object-Relational Mapping หรือ ORM เป็นเทคนิคในการแปลงข้อมูลระหว่างระบบการจัดการฐานข้อมูลเชิงความสัมพันธ์ (Relational Database) และภาษาเขียนโปรแกรมแบบ Object Oriented หรือ OO เพื่อให้สามารถจัดการข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยที่นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องเขียนคำสั่ง SQL ที่ซับซ้อน แต่สามารถทำงานกับข้อมูลโดยใช้ object ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมแบบคาบุกข (Object Oriented)
ORM มีประโยชน์หลายด้านที่ทำให้นักพัฒนาเลือกใช้มัน เช่น:
1. เสริมความพร้อมใช้งาน: ORM ทำให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสที่แนวคิดในการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ OO อย่าง Object และ Class โดยไม่ต้องกังวลกับความซับซ้อนของระบบฐานข้อมูลเชิงความสัมพันธ์ 2. ยกระดับความยืดหยุ่น: เวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างฐานข้อมูล หรือต้องการเปลี่ยนไปใช้ฐานข้อมูลชนิดอื่น ORM จะช่วยลดขั้นตอนในการแก้ไข code ลงได้อย่างมาก 3. การแยกส่วนของความรับผิดชอบ: การใช้ ORM ทำให้นักพัฒนาสามารถแยกส่วนการทำงานของ code ที่เกี่ยวกับการจัดการฐานข้อมูลออกจาก code ตัว logic หลักของโปรแกรมได้ 4. ลดความซับซ้อนในการเขียน code: ORM ช่วยทำให้การเขียน code ที่เกี่ยวด้วยการค้นหา, แทรก, อัพเดต, และลบข้อมูลในฐานข้อมูลเป็นไปอย่างง่ายดาย และสะอาดตากว่าการเขียน SQL แบบดิบๆ
สมมุติว่าเรากำลังพัฒนาแอพพลิเคชันด้วยภาษา Python และต้องการจัดการข้อมูลผู้ใช้ในฐานข้อมูล SQL, เราสามารถใช้ library ที่ชื่อว่า SQLAlchemy ซึ่งเป็น ORM ที่ใช้งานได้กับหลายฐานข้อมูลเชิงความสัมพันธ์ เช่น MySQL, PostgreSQL และ SQLite
ตัวอย่างโค้ดด้วย SQLAlchemy:
from sqlalchemy import create_engine, Column, Integer, String
from sqlalchemy.ext.declarative import declarative_base
from sqlalchemy.orm import sessionmaker
# สร้างฐานข้อมูลใน Memory
engine = create_engine('sqlite:///:memory:')
Session = sessionmaker(bind=engine)
session = Session()
Base = declarative_base()
# กำหนดโครงสร้างของตารางในฐานข้อมูล
class User(Base):
__tablename__ = 'users'
id = Column(Integer, primary_key=True)
name = Column(String)
age = Column(Integer)
# สร้างตาราง
Base.metadata.create_all(engine)
# สร้าง instance ของ User แล้วเพิ่มเข้าไปในฐานข้อมูล
new_user = User(name='Somchai', age=30)
session.add(new_user)
session.commit()
# ค้นหาข้อมูล User
user = session.query(User).filter_by(name='Somchai').first()
print(user.name, user.age)
ในตัวอย่างนี้ เราเห็นว่าการจัดการข้อมูลด้วย ORM ทำให้เราสามารถใช้ข้อมูลแบบ object และไม่จำเป็นต้องเขียนคำสั่ง SQL โดยตรง ทำให้โค้ดของเราสะอาดและดูแลได้ง่ายขึ้น
การเลือกใช้ ORM ในโปรเจ็กต์ซอฟต์แวร์มีความสำคัญในหลายๆด้าน เช่น การออกแบบระบบที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว, การร่วมมือกันทำงานภายในทีม, และการรักษาคุณภาพของโค้ดไว้ โดยแนวคิด ORM ช่วยลดขอบเขตความซับซ้อนในการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้อย่างมาก
สำหรับหลายๆ คนที่มีความสนใจในการพัฒนาซอฟต์แวร์ การเรียนรู้เกี่ยวกับ ORM และการใช้งานต่างๆ นั้นถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญ โดยมีสถาบันการศึกษาหลายแห่งที่เปิดสอนหลักสูตรเกี่ยวกับฐานข้อมูลและ ORM การศึกษาในประเด็นนี้สามารถช่วยเสริมสร้างทักษะการใช้งานเฟรมเวิร์คและไลบรารีต่างๆ ที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมได้อย่างมั่นคง
ดังนั้น ORM เป็นองค์ประกอบสำคัญในโลกการเขียนโปรแกรมสมัยใหม่ที่จะช่วยให้นักพัฒนาจัดการกับความท้าทายของฐานข้อมูลได้ดียิ่งขึ้นและเปิดโอกาสให้กับการออกแบบระบบที่มีคุณภาพและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกที่ข้อมูลคืออำนาจ
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: orm object-relational_mapping programming sqlalchemy python database_management object-oriented_programming relational_database code_efficiency flexibility responsibility_separation clean_code software_development data_management programming_paradigm
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com