# หลักการ Clean Code ของคุณ Robert C. Martin ที่ว่าด้วย Readable Code เป็นอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร
การเขียนโค้ดที่มีคุณภาพไม่เพียงแค่หมายถึงโค้ดที่ทำงานได้ตามที่ต้องการเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเขียนโค้ดที่เป็นระเบียบ สื่อสารได้ชัดเจน และสามารถดูแลรักษาได้ง่ายในอนาคตด้วย คุณ Robert C. Martin, นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ได้เสนอแนวคิดที่เรียกว่า "Clean Code" หรือ "โค้ดที่สะอาด" ซึ่งหมายถึงการเขียนโค้ดที่มีคุณภาพสูง และเป็นที่ยอมรับในหมู่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วโลก
Readable code หรือโค้ดที่อ่านง่าย หมายถึงโค้ดที่เขียนขึ้นด้วยความชัดเจนในเนื้อหา เข้าใจได้ง่าย และช่วยให้นักพัฒนาคนอื่นๆ สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าโค้ดนั้นทำงานอย่างไร ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม
หลักการ Clean Code นั้นมีหลักการหลายประการที่ส่งเสริมให้โค้ดมีความ readable โดยมีหลายแง่มุมดังกล่าว:
1. ใช้ชื่อที่มีความหมายและเฉพาะเจาะจง (Meaningful Names)- การตั้งชื่อแปรหรือฟังก์ชันควรบ่งบอกถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของมันได้อย่างชัดเจน
2. ฟังก์ชันควรมีขนาดเล็กและทำงานเฉพาะเจาะจง (Small and Focused Functions)- แต่ละฟังก์ชันควรทำงานเพียงหนึ่งอย่างเท่านั้น ทำให้ง่ายต่อการอ่าน และทำความเข้าใจ
3. รหัสที่มีโครงสร้างและแบ่งได้ชัดเจน (Structured and Modular Code)- โค้ดควรถูกจัดแบ่งเป็นส่วนๆ แต่ละส่วนควรมีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะเจาะจง
4. การละเว้นข้อมูลที่ไม่จำเป็น (Avoiding Unnecessary Information)- ควรละเว้นข้อมูลหรือโค้ดที่ไม่มีความจำเป็นทิ้งไป เพื่อมิให้เกิดความสับสน
5. การใช้ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Comments)- การใช้ความคิดเห็นในโค้ดควรเป็นการเสริมความเข้าใจและไม่ทับซ้อนกับโค้ด
- โค้ดที่อ่านง่ายทำให้นักพัฒนาสามารถจัดการกับการแก้ไขและการพัฒนาโค้ดต่อได้อย่างรวดเร็ว
2. ปรับปรุงความร่วมมือในทีม (Team Collaboration)- ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา เนื่องจากทุกคนเข้าใจโค้ดได้แบบเดียวกัน
3. เพิ่มคุณภาพและความน่าเชื่อถือของโปรแกรม (Quality and Reliability)- โค้ดที่ชัดเจนและมีการจัดการที่ดีนำไปสู่โปรแกรมที่มีความแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ
4. ง่ายต่อการสืบทอดโค้ดไปยังนักพัฒนาใหม่ (Code Legacy)- การส่งต่อโค้ดให้กับนักพัฒนาคนใหม่จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นเมื่อโค้ดนั้นสามารถอ่านและเข้าใจได้ง่าย
// Bad Example
public List getFlaggedCells() {
List flaggedCells = new ArrayList();
for (int[] cell : gameBoard) {
if (cell[STATUS_VALUE] == FLAGGED)
flaggedCells.add(cell);
}
return flaggedCells;
}
// Good Example
public List getFlaggedCells() {
List flaggedCells = new ArrayList<>();
for (Cell cell : gameBoard) {
if (cell.isFlagged())
flaggedCells.add(cell);
}
return flaggedCells;
}
| |
ทั้งนี้ยังมีหลักการอื่นๆ ของ Clean Code ที่ช่วยให้โค้ดของคุณมีคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเรียงโค้ดตามแนวคิดไหลลื่นตามลำดับความสำคัญ การเขียนเทสท์เคสที่ดี และการรักษา consistency ในการเขียนโค้ด ทำให้โค้ดของคุณมีความสะอาด อ่านง่าย เข้าใจง่าย และเป็นมิตรต่อนักพัฒนาทุกระดับประสบการณ์
ในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมการพัฒนาซอฟต์แวร์ การประกอบหน้าที่เพื่อสร้างสรรค์โค้ดที่สะอาดและมีคุณภาพสามารถนำไปสู่ผลการทำงานที่ดีขึ้นและการช่วยเหลือนักพัฒนาคนอื่นๆ ในทีมของเราให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ และนี่คือคุณค่าแท้จริงของการเป็นนี้ที่ไม่เพียงแต่มีความเข้าใจในหลักการพื้นฐานของการเขียนโค้ดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการส่งต่อความรู้นี้ให้แก่ผู้อื่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีคุณภาพในอนาคต.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: clean_code robert_c._martin readable_code programming_principles effective_comments structured_code meaningful_names small_functions code_quality team_collaboration maintenance evolution quality_programming code_legacy programming_best_practices
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com