# เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Swift โดยใช้ Linear Probing Hashing
การจัดการข้อมูลเป็นหนึ่งในฐานของการพัฒนาโปรแกรม ไม่ว่าด้วยภาษาใดก็ตาม สำหรับผู้ที่เขียนแอพพลิเคชันบน iOS หรือ macOS การใช้ภาษา Swift ในการจัดการข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราจะมาพูดถึงเทคนิคหนึ่งที่ช่วยในการจัดการข้อมูลซึ่งคือ "Linear Probing Hashing" ลินิเยียร์ โพรบิ้ง (Linear Probing) เป็นเทคนิคหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการชนทางข้อมูล (collision) ในการใช้งาน hash table ซึ่งเป็นโครงสร้างข้อมูลที่ใช้ในการเก็บคู่ของคีย์และค่า (key-value pairs) โดยใช้ฟังก์ชันแฮชซึ่งมีประโยชน์มากในการค้นหาข้อมูลอย่างรวดเร็ว
Linear Probing ทำงานโดยการค้นหาสถานที่ว่างใน hash table ให้กับข้อมูลที่ต้องการเก็บ เมื่อมีการชนทางข้อมูล แทนที่จะมองหาโครงสร้างอื่นหรือทำการเชื่อมโยงข้อมูลที่ชนกัน Linear Probing จะค้นหาช่องถัดไปที่ว่างเปล่าในตารางและใส่ข้อมูลลงไป
การ Insert ข้อมูล
การเพิ่มข้อมูลลงใน hash table ด้วย Linear Probing สามารถทำได้โดยการคำนวณ hash index จาก key ที่ต้องการเก็บ หากช่องนั้นว่างอยู่ ข้อมูลก็จะถูกเก็บไว้ที่นั่น แต่ถ้าไม่ว่าง จะต้องทำการค้นหาช่องว่างถัดไปจนกว่าจะเจอ
func linearProbingInsert(key: Int, value: String, hashTable: inout [String?], capacity: Int) {
var index = key % capacity
while hashTable[index] != nil {
index = (index + 1) % capacity
}
hashTable[index] = value
}
การ Update ข้อมูล
การ update ข้อมูลใน hash table ด้วย Linear Probing นั้นไม่ต่างอะไรจากการ insert แต่เราต้องค้นหา key ที่ต้องการ update ก่อนแล้วจึงเปลี่ยนแปลงค่าใหม่
func linearProbingUpdate(key: Int, newValue: String, hashTable: inout [String?], capacity: Int) {
var index = key % capacity
while hashTable[index] != nil && hashTable[index] != key {
index = (index + 1) % capacity
}
if hashTable[index] == key {
hashTable[index] = newValue
}
}
การ Find ข้อมูล
การค้นหาข้อมูลใน hash table ด้วย Linear Probing ทำได้โดยการคำนวณ hash index จาก key ที่ต้องการค้นหา และจากนั้นค้นหาตาม index ที่ได้จนกว่าจะเจอ key ที่ตรงกัน
func linearProbingFind(key: Int, hashTable: [String?], capacity: Int) -> String? {
var index = key % capacity
while hashTable[index] != nil && hashTable[index] != key {
index = (index + 1) % capacity
}
return hashTable[index] == key ? hashTable[index] : nil
}
การ Delete ข้อมูล
ใน Linear Probing การลบข้อมูลออกจาก hash table ทำได้ง่าย โดยการค้นหา key และเมื่อเจอก็เปลี่ยนช่องนั้นให้เป็น nil
func linearProbingDelete(key: Int, hashTable: inout [String?], capacity: Int) {
var index = key % capacity
while hashTable[index] != nil && hashTable[index] != key {
index = (index + 1) % capacity
}
if hashTable[index] == key {
hashTable[index] = nil
}
}
ข้อดี:
- โครงสร้างง่าย ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนในการจัดการช่องว่าง
- ประหยัดพื้นที่เมื่อเทียบกับการใช้ method อื่นๆ เช่น chaining
ข้อเสีย:
- อาจทำให้เกิดการ clustering หรือกลุ่มของข้อมูลที่ชนกันทำให้ประสิทธิภาพลดลง
- การค้นหาอาจช้าลงในกรณีที่มีการชนข้อมูลหลายครั้ง
การใช้ Linear Probing ในภาษา Swift ต้องมีการพิจารณาถึงขนาดของ hash table และการจัดการปัญหาการชนทางข้อมูลเป็นหลัก เพื่อป้องกันไม่ให้ความเร็วในการค้นหาช้าลงอย่างมาก
สำหรับผู้ที่สนใจในการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมและการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ, EPT (Expert-Programming-Tutor) เป็นสถาบันที่สามารถช่วยให้คุณสามารถทำความเข้าใจเทคนิคต่างๆ เช่น Linear Probing และวิธีการเขียนโค้ดในภาษา Swift ได้อย่างลึกซึ้งและครอบคลุม ให้คุณพร้อมสำหรับการพัฒนาแอพพลิเคชันบน iOS หรือ macOS ที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย มาร่วมเป็นนักพัฒนาที่ชาญฉลาดกับเราที่ EPT วันนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: swift linear_probing hashing data_management ios_development algorithm insertion update find delete efficiency clustering collision_resolution programming data_structure
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM