บทความ: การเข้าใจ if-else ในภาษา C# อย่างมีเหตุผลกับตัวอย่างรหัสและการใช้งานจริง
ในโลกของการเขียนโปรแกรม หากมีสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นกระดูกสันหลังของการตัดสินใจภายในโปรแกรมนั้น คงหนีไม่พ้นการใช้งานโครงสร้างควบคุมเงื่อนไข ซึ่งมีต้นแบบที่เรียกว่า "if-else" ในภาษา C# การใช้งาน if-else เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่นักพัฒนาทุกคนจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างแม่นยำ เพื่อควบคุมการทำงานของโปรแกรมให้ส่งออกผลลัพธ์อย่างถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
if-else ในภาษา C# เป็นโครงสร้างควบคุมเงื่อนไขที่ใช้เพื่อตัดสินใจว่าจะทำงานชุดคำสั่งใดโดยพิจารณาจากเงื่อนไขที่เป็นจริง (true) หรือเท็จ (false) เปรียบเหมือนเราทำการเลือกทางเดินที่จะก้าวไป หากเงื่อนไขเป็นจริง (if) เราจะทำงานชุดคำสั่งหนึ่ง แต่หากเงื่อนไขไม่เป็นจริง (else) เราจะทำงานชุดคำสั่งอื่น
ลองพิจารณาตัวอย่างโค้ดง่ายๆ เพื่อดูการทำงานของ if-else ใน C#:
int score = 75;
if (score >= 80)
{
Console.WriteLine("คุณได้เกรด A");
}
else if (score >= 70)
{
Console.WriteLine("คุณได้เกรด B");
}
else
{
Console.WriteLine("คุณได้เกรด C หรือต่ำกว่า");
}
ในโปรแกรมข้างต้น, เรามีตัวแปร `score` ที่มีค่าเท่ากับ 75 เราต้องการตรวจสอบว่าคะแนนนี้จะได้เกรดใด โดยใช้โครงสร้าง if-else เพื่อระบุเงื่อนไข หาก `score` มีค่า 80 หรือมากกว่า (`if (score >= 80)`) โปรแกรมจะแสดงผลว่า "คุณได้เกรด A" แต่หากคะแนนนั้นอยู่ระหว่าง 70 ถึง 79- (`else if (score >= 70)`) จะแสดงผลว่า "คุณได้เกรด B" และหากไม่ตรงกับเงื่อนไขใดๆ ระบบจะเลือกทำงานตามบล็อก else และแสดงผลว่า "คุณได้เกรด C หรือต่ำกว่า"
1. การทำงานของระบบ Login
string username = "user";
string password = "pass1234";
if (username == "admin" && password == "adminPass")
{
Console.WriteLine("ยินดีต้อนรับ Admin!");
}
else
{
Console.WriteLine("ชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่านไม่ถูกต้อง");
}
ในการพัฒนาระบบ login, การใช้งาน if-else เป็นหัวใจสำคัญในการตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องจะถูกตรวจสอบเพื่อยืนยันว่า username และ password ที่ป้อนเข้ามานั้นตรงกับที่เก็บไว้ในระบบหรือไม่
2. การคำนวณส่วนลดสำหรับการชำระเงิน
decimal totalPrice = 5000m;
decimal discountPercentage = 0m;
if (totalPrice >= 10000m)
{
discountPercentage = 0.2m; // ลด 20%
}
else if (totalPrice >= 5000m)
{
discountPercentage = 0.1m; // ลด 10%
}
decimal finalPrice = totalPrice - (totalPrice * discountPercentage);
Console.WriteLine($"ราคาที่ต้องชำระ: {finalPrice:C}");
ระบบคำนวณส่วนลดในการชำระเงินเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่โค้ด if-else ถูกนำมาใช้เพื่อตัดสินใจว่าควรให้ส่วนลดเท่าไหร่โดยพิจารณาจากยอดรวมการจับจ่าย
การทำความเข้าใจโครงสร้างเงื่อนไขแบบ if-else ไม่เพียงแค่ช่วยในการตัดสินใจภายในโปรแกรม แต่ยังเป็นพื้นฐานในการสร้างโปรแกรมที่ยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และสำหรับผู้ที่สนใจในการพัฒนาความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมมากขึ้น Expert-Programming-Tutor (EPT) พร้อมเปิดประตูสู่โลกของการเขียนโค้ดให้กับคุณ ที่ EPT เรามีหลักสูตรและเทคนิคการเรียนการสอนที่จะทำให้คุณเข้าใจและนำไปใช้โครงสร้างการเขียนโค้ดอย่าง if-else ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มศักยภาพ.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: if-else การใช้งาน_if-else ภาษา_c# โครงสร้างควบคุมเงื่อนไข การตัดสินใจในภาษา_c# ตัวอย่างโค้ด ระบบ_login คำนวณส่วนลด โปรแกรม การเขียนโปรแกรม การพัฒนาระบบ if-else_ในภาษา_c# เกรด การทำงาน_if-else ส่วนลดการชำระเงิน
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM