# การใช้งาน Dynamic Typing Variable ในภาษา TypeScript พร้อมตัวอย่างจากโลกจริง
TypeScript คือภาษาโปรแกรมมิ่งที่เพิ่มคุณสมบัติการกำหนดประเภทข้อมูลให้แน่นอน (Strong Typing) เข้ากับ JavaScript ซึ่งเป็นภาษาที่มีลักษณะเป็น Dynamic Typing โดยธรรมชาติ หมายความว่าใน JavaScript, ตัวแปรสามารถเปลี่ยนประเภทของข้อมูลได้ตามข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการพัฒนา แต่ในอีกด้านหนึ่งอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดที่ยากต่อการตรวจสอบได้ในขณะที่เขียนโค้ด
TypeScript มีเป้าหมายเพื่อลดปัญหาเหล่านี้ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ Type Annotations ซึ่งผู้พัฒนาสามารถระบุประเภทข้อมูลเฉพาะสำหรับแต่ละตัวแปรได้ ถึงแม้ว่า TypeScript จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้านตัวแปร แต่ก็ยังอนุญาตให้ใช้งาน dynamic typing ผ่านประเภทข้อมูล `any` ที่นำไปสู่การทำงานแบบ dynamic typing เมื่อจำเป็น
ตัวอย่างที่ 1: การประกาศตัวแปรแบบ Dynamic
let dynamicVariable: any = "Hello, EPT!";
dynamicVariable = 100; // ได้, ไม่มีข้อผิดพลาด เพราะเป็นแบบ dynamic typing
dynamicVariable = true; // ได้, เปลี่ยนเป็น boolean
console.log(dynamicVariable); // แสดงผล: true
ในตัวอย่างนี้ `dynamicVariable` สามารถเปลี่ยนแปลงประเภทข้อมูลได้ตามต้องการ เพราะมีการกำหนดประเภทเป็น `any` ซึ่งทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ตัวอย่างที่ 2: ฟังก์ชันที่รับพารามิเตอร์แบบ Dynamic
function logValue(value: any) {
console.log(value);
}
logValue("EPT is cool!");
logValue(42);
logValue({ name: "Expert-Programming-Tutor" });
ฟังก์ชัน `logValue` รับพารามิเตอร์ `value` เป็นประเภท `any` ทำให้เราสามารถเรียกใช้งานได้กับข้อมูลประเภทใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น string, number, หรือ object
ตัวอย่างที่ 3: การใช้งานอาร์เรย์แบบ Dynamic
let mixedArray: any[] = ["Hello", 10, false];
mixedArray.push("EPT");
mixedArray.push(20);
mixedArray.push(true);
console.log(mixedArray); // แสดงผล: ["Hello", 10, false, "EPT", 20, true]
อาร์เรย์ `mixedArray` มีประเภทเป็น `any[]` ซึ่งหมายความว่าเราสามารถเพิ่มอีลิเมนต์ประเภทใดก็ได้เข้าไปในอาร์เรย์นี้โดยไม่มีปัญหา
หนึ่งใน usecase ที่เห็นได้ชัดเจนคือในขั้นตอนของการ Prototype แอปพลิเคชัน เมื่อต้องการสร้างแนวคิดหรือทดสอบความคิดก่อนที่จะเข้าสู่การพัฒนาอย่างเป็นทางการ การใช้ dynamic typing จะช่วยให้การเขียนโค้ดรวดเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องคอยกำหนดประเภทข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเวลาที่ต้องการทดลองความคิดใหม่ๆ
อย่างไรก็ตาม, หลังจากผ่านขั้นตอนของการ Prototype แล้ว การกำหนดประเภทข้อมูลอย่างแม่นยำสามารถช่วยลดความเสี่ยงของ bug และทำให้โค้ดง่ายต่อการบำรุงรักษาและขยายฟังก์ชันในอนาคต
Dynamic typing ใน TypeScript ทำให้นักพัฒนามีความยืดหยุ่นในการจัดการตัวแปรของข้อมูลในขั้นตอนต่างๆ แน่นอนว่าการใช้ประเภท `any` ควรทำด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้นำไปสู่ปัญหาในระยะยาว ที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) เรามีคอร์สเรียนที่จะทำให้คุณเข้าใจการใช้งาน TypeScript สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมืออาชีพ และช่วยให้คุณทราบถึงข้อดีและข้อเสียของ dynamic typing เพื่อใช้งานอย่างเหมาะสมในโปรเจกต์ของคุณ
หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้การเขียนโปรแกรมที่มีพื้นฐานแข็งแรงและรอบคอบ เป็นเพื่อนไปกับเราที่ [EPT](https://www.expert-programming-tutor.com/) แล้วค้นพบเส้นทางการเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพในวันนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM