# การใช้งานไฟล์ในภาษา TypeScript สำหรับนิสิตและนักพัฒนา
TypeScript ถือเป็นภาษาที่พัฒนามาจาก JavaScript ซึ่งเพิ่มความสามารถในการจัดการประเภทข้อมูลแบบแข็ง (static typing) ทำให้การเขียนโปรแกรมมีความปลอดภัยและง่ายดายขึ้น โดยเฉพาะในการทำงานร่วมกันเป็นทีม หนึ่งในความสามารถที่สำคัญของ TypeScript คือการจัดการกับไฟล์เพื่อให้สามารถสร้าง, อ่าน, แก้ไข หรือลบข้อมูลได้ ซึ่งสามารถนำไปใช้ใน use case หลากหลายในโลกของการจริง วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการใช้งานไฟล์ใน TypeScript อย่างง่ายๆ พร้อมตัวอย่างโค้ด 3 ตัวอย่าง และอธิบายการทำงาน รวมถึงการยกตัวอย่าง use case ในการใช้งานจริง หากคุณต้องการฝึกฝนและพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมด้วย TypeScript อย่าลืมเข้ามาฝึกฝนที่ EPT ที่พร้อมจะนำพาคุณเข้าสู่โลกของการเขียนโค้ดอย่างมืออาชีพ!
import * as fs from 'fs/promises';
async function createAndWriteFile(fileName: string, data: string) {
try {
await fs.writeFile(fileName, data, 'utf-8');
console.log(`ไฟล์ถูกสร้างและเขียนข้อมูลเรียบร้อยแล้ว: ${fileName}`);
} catch (error) {
console.error('เกิดข้อผิดพลาดในการเขียนไฟล์:', error);
}
}
createAndWriteFile('example.txt', 'สวัสดี, TypeScript!');
ตัวอย่างนี้แสดงวิธีการสร้างไฟล์และเขียนข้อมูลลงไปในไฟล์นั้น โดยใช้งานแพ็กเกจ `fs` ที่มีให้ใน Node.js เพื่อทำงานกับไฟล์ระบบได้ง่ายและรวดเร็ว ฟังก์ชัน `writeFile` เป็น asynchronous function ที่ต้องการชื่อไฟล์, ข้อมูลที่จะเขียน และอักขระตั้งต้นของไฟล์เป็นอาร์กิวเมนต์
ตัวอย่างโค้ดนี้สามารถใช้ประโยชน์ในการสร้างไฟล์ log หรือไฟล์ตั้งค่าสำหรับแอปพลิเคชันก็ได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ในการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้งานฐานข้อมูลแบบเรียบง่ายได้ด้วย
import * as fs from 'fs/promises';
async function readFile(fileName: string) {
try {
const data = await fs.readFile(fileName, 'utf-8');
console.log('ข้อมูลในไฟล์:', data);
} catch (error) {
console.error('เกิดข้อผิดพลาดในการอ่านไฟล์:', error);
}
}
readFile('example.txt');
ในตัวอย่างข้างต้น, ฟังก์ชัน `readFile` จะอ่านข้อมูลจากไฟล์ที่ถูกเรียกผ่านชื่อไฟล์ที่กำหนดให้ สามารถนำมาใช้ในการดึงค่าคอนฟิกหรืออ่านข้อมูลจากไฟล์ log ได้
เหมาะกับการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่ต้องการอ่านค่าการตั้งค่าจากไฟล์ภายนอก เช่น ไฟล์ configuration หรือการดึงข้อมูลสำคัญเพื่อแสดงผลบนเว็บไซต์
import * as fs from 'fs/promises';
async function deleteFile(fileName: string) {
try {
await fs.rm(fileName);
console.log(`ไฟล์ถูกลบเรียบร้อยแล้ว: ${fileName}`);
} catch (error) {
console.error('เกิดข้อผิดพลาดในการลบไฟล์:', error);
}
}
deleteFile('example.txt');
ตัวอย่างนี้แสดงการลบไฟล์ออกจากระบบ ทำให้สามารถจัดการกับไฟล์ที่ไม่จำเป็นหรือเกินระยะเวลาที่กำหนดได้ง่ายขึ้น
ฟังก์ชันนี้สามารถใช้ได้เยี่ยมในการพัฒนาเว็บไซต์ที่มีการจัดการเอกสารหรือไฟล์รูปภาพที่ต้องการถูกลบหลังจากใช้งานจนครบระยะเวลาที่กำหนด หรือใช้ในการล้างข้อมูลทดสอบออกจากระบบ
ด้วยตัวอย่างโค้ดและ use case ข้างต้น ทำให้เราเห็นว่า TypeScript ไม่เพียงแต่เพิ่มความโดดเด่นในการจัดการกับประเภทข้อมูลเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถที่รอบด้านในการจัดการกับไฟล์ระบบ หากคุณต้องการรู้ลึกถึง TypeScript และการทำงานอื่นที่แสนจะตื่นเต้นกว่านี้ มาเปิดโลกการเรียนรู้กับ EPT ที่พร้อมจะนำคุณสู่เส้นทางของนักพัฒนาอย่างมืออาชีพ และสร้างผลงานที่มีคุณภาพ เรายินดีต้อนรับทุกคนที่มีความสนใจ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM