การใช้งาน การหาค่ามากที่สุด และน้อยที่สุด โดยใช้ Loop ในภาษา COBOL แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง CODE 3 ตัวอย่าง และอธิบายการทำงาน และยกตัวอย่าง usecase ในโลกจริง

ในโลกของการเขียนโปรแกรม การหาค่ามากที่สุดและน้อยที่สุดในชุดข้อมูลหนึ่งๆ เป็นหนึ่งในภารกิจพื้นฐานที่โปรแกรมเมอร์ทุกคนควรจะทำได้ ในภาษา COBOL ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมมิ่งที่สืบทอดมายาวนานและยังคงใช้งานอยู่ในระบบองค์กรขนาดใหญ่ การใช้งาน loop ในการค้นหาค่าเหล่านี้ไม่ได้แตกต่างกันมากนักจากภาษาโปรแกรมมิ่งอื่นๆ

ก่อนเริ่มต้น มารู้จักกับ COBOL กันก่อนว่ามันคืออะไร COBOL ย่อมาจาก Common Business-Oriented Language หรือ ภาษาที่พัฒนาขึ้นเพื่อการจัดการทางธุรกิจโดยเฉพาะ ถึงแม้ในสมัยปัจจุบันนี้ ภาษาการเขียนโปรแกรมได้เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ COBOL ยังคงมีความสำคัญในองค์กรต่างๆ ที่มีระบบธุรกิจที่เก่าแก่ และต้องการความมั่นคง และเชื่อถือได้

เมื่อเข้าใจประเภทของ COBOL แล้ว เรามาดูวิธีการหาค่ามากสุดและน้อยสุดด้วยการใช้ loop กันเลยดีกว่า

ตัวอย่างโค้ดที่ 1: การหาค่าสูงสุดในชุดข้อมูล

ก่อนอื่น เราต้องสร้างตัวแปรสำหรับเก็บค่าสูงสุด และตั้งค่าเริ่มต้นให้เป็นค่าที่ต่ำที่สุดที่เป็นไปได้ เมื่อใช้ลูปในการวนซ้ำผ่านชุดข้อมูล เราจะเปรียบเทียบค่าปัจจุบันกับค่าสูงสุดที่เก็บไว้ หากค่าปัจจุบันมากกว่า ก็จะเปลี่ยนค่าที่เก็บไว้เป็นค่าปัจจุบัน

ต่อไปนี้คือตัวอย่างโค้ดในภาษา COBOL:

IDENTIFICATION DIVISION.
PROGRAM-ID. FINDMAX.

DATA DIVISION.
WORKING-STORAGE SECTION.
01 NUMBERS.
   05 NUMBER OCCURS 5 TIMES PIC 9(4) VALUE ZEROES.
01 MAX-VAL PIC 9(4) VALUE ZERO.

PROCEDURE DIVISION.
A000-INITIALIZE.
    PERFORM VARYING I FROM 1 BY 1 UNTIL I > 5
        DISPLAY "ENTER NUMBER (", I, "): "
        ACCEPT NUMBER(I)
    END-PERFORM.

A100-FIND-MAX.
    MOVE ZERO TO MAX-VAL
    PERFORM VARYING I FROM 1 BY 1 UNTIL I > 5
        IF NUMBER(I) > MAX-VAL THEN
            MOVE NUMBER(I) TO MAX-VAL
        END-IF
    END-PERFORM

    DISPLAY "THE MAXIMUM VALUE IS: " MAX-VAL.

    STOP RUN.

ในตัวอย่างนี้ ได้มีการรับค่าตัวเลขจำนวน 5 ตัวจากผู้ใช้ โดยมีการใช้ loop `PERFORM VARYING` ในเพื่อรับข้อมูลเข้ามา และ loop เดียวกันอีกอันในการค้นหาค่าสูงสุด

ตัวอย่างโค้ดที่ 2: การหาค่าต่ำสุดในชุดข้อมูล

การหาค่าต่ำสุดจะเหมือนกับการหาค่าสูงสุด แต่เราจะเริ่มต้นด้วยค่าที่สูงที่สุดที่เป็นไปได้ และเปรียบเทียบในทางตรงกันข้าม

IDENTIFICATION DIVISION.
PROGRAM-ID. FINDMIN.

DATA DIVISION.
WORKING-STORAGE SECTION.
01 NUMBERS.
   05 NUMBER OCCURS 5 TIMES PIC 9(4) VALUE ZEROES.
01 MIN-VAL PIC 9(4) VALUE 9999.

PROCEDURE DIVISION.
A000-INITIALIZE.
    PERFORM VARYING I FROM 1 BY 1 UNTIL I > 5
        DISPLAY "ENTER NUMBER (", I, "): "
        ACCEPT NUMBER(I)
    END-PERFORM.

A100-FIND-MIN.
    MOVE 9999 TO MIN-VAL
    PERFORM VARYING I FROM 1 BY 1 UNTIL I > 5
        IF NUMBER(I) < MIN-VAL THEN
            MOVE NUMBER(I) TO MIN-VAL
        END-IF
    END-PERFORM

    DISPLAY "THE MINIMUM VALUE IS: " MIN-VAL.

    STOP RUN.

ในโค้ดข้างต้น ได้มีการตั้งค่าเริ่มต้นของ `MIN-VAL` เป็น 9999 ซึ่งเป็นค่าที่สูงเพื่อให้มั่นใจว่าทุกค่าในชุดข้อมูลจะน้อยกว่าค่านี้ ในการวนลูป เราตรวจสอบว่าค่าปัจจุบันน้อยกว่า `MIN-VAL` หรือไม่ และถ้าใช่ เราจะเปลี่ยนค่านั้น

ตัวอย่างโค้ดที่ 3: การหาทั้งค่ามากสุดและน้อยสุดพร้อมกัน

IDENTIFICATION DIVISION.
PROGRAM-ID. FINDMINMAX.
 
 
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง