การใช้งาน Array 2D ในภาษา COBOL: พื้นฐานที่สำคัญในการเขียนโปรแกรม

ในโลกของการเขียนโปรแกรมนั้น Array เป็นโครงสร้างข้อมูลที่สำคัญอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Array แบบสองมิติ (2D Array) ซึ่งใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบตาราง เช่น ข้อมูลคะแนนสอบของนักเรียน ข้อมูลการขายในแต่ละเดือน หรือแม้กระทั่งข้อมูลจากฐานข้อมูลที่มีหลายมิติ ในบทความนี้ เราจะพูดถึงการใช้งาน Array 2D ในภาษา COBOL พร้อมตัวอย่างโค้ดและอธิบายการทำงานให้เข้าใจง่าย

Array 2D คืออะไร?

Array 2D คือ Array ที่มีมิติสอง ซึ่งจะทำให้เราสามารถจัดเก็บข้อมูลในลักษณะของตารางได้ โดยแต่ละตำแหน่งใน Array จะถูกเรียกว่า Cell ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านการระบุ Index ของแถว (row) และคอลัมน์ (column)

ในภาษา COBOL สำหรับการประกาศ Array 2D นั้นต้องคำนึงถึงการทำให้ข้อมูลที่เก็บอยู่มีความชัดเจน โดยเราจะแบ่ง Array 2D ออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ การประกาศและการเข้าถึงข้อมูลใน Array

การประกาศ Array 2D ใน COBOL

ในการประกาศ Array 2D ใน COBOL เราจะต้องระบุขนาดของ Array เริ่มต้น และชนิดของข้อมูลที่จะแบ่งเก็บ โดยรูปแบบทั่วไปจะอยู่ในระดับ `WORKING-STORAGE SECTION` ดังนี้:

        IDENTIFICATION DIVISION.
       PROGRAM-ID. ArrayExample.
       DATA DIVISION.
       WORKING-STORAGE SECTION.
       01  StudentScores.
           05  ScoreTable    OCCURS 5 TIMES 10 TIMES PIC 9(3).
       01  RowIndex            PIC 9(2).
       01  ColumnIndex         PIC 9(2).
       PROCEDURE DIVISION.
       MAIN-LOGIC.

ในตัวอย่างนี้ เราประกาศว่าเราจะมีตารางคะแนนที่สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 5 แถวและ 10 คอลัมน์ โดยตัวแปร `ScoreTable` จะเก็บคะแนนนักเรียน

การเข้าถึงข้อมูลใน Array 2D

เมื่อเราต้องการเข้าถึงข้อมูลใน Array 2D เราสามารถใช้การวนลูปเพื่ออ่านหรือปรับข้อมูลในแต่ละ Cell ได้ เช่น หากเราต้องการเก็บคะแนนนักเรียนแต่ละคนใน Cell ของ Array โดยใช้ Loop

ตัวอย่างโค้ด

        IDENTIFICATION DIVISION.
       PROGRAM-ID. ArrayExample.
       DATA DIVISION.
       WORKING-STORAGE SECTION.
       01  StudentScores.
           05  ScoreTable    OCCURS 5 TIMES 10 TIMES PIC 9(3).
       01  RowIndex            PIC 9(2).
       01  ColumnIndex         PIC 9(2).

       PROCEDURE DIVISION.
       MAIN-LOGIC.
           MOVE 0 TO RowIndex
           PERFORM VARYING RowIndex FROM 1 BY 1 UNTIL RowIndex > 5
               PERFORM VARYING ColumnIndex FROM 1 BY 1 UNTIL ColumnIndex > 10
                   DISPLAY "Enter score for student " RowIndex " subject " ColumnIndex ": "
                   ACCEPT ScoreTable(RowIndex, ColumnIndex)
               END-PERFORM
           END-PERFORM

           DISPLAY "Scores Entered: "
           PERFORM VARYING RowIndex FROM 1 BY 1 UNTIL RowIndex > 5
               PERFORM VARYING ColumnIndex FROM 1 BY 1 UNTIL ColumnIndex > 10
                   DISPLAY "Score for student " RowIndex " subject " ColumnIndex ": " ScoreTable(RowIndex, ColumnIndex)
               END-PERFORM
           END-PERFORM
           STOP RUN.

ในโค้ดด้านบน เราเริ่มด้วยการประกาศตัวแปร `RowIndex` และ `ColumnIndex` เพื่อใช้วนลูปสำหรับการป้อนคะแนนเข้าไปใน Array `ScoreTable` โดยที่เราจะต้องให้ผู้ใช้ป้อนคะแนนของนักเรียนแต่ละคน หลังจากนั้นเราจะแสดงคะแนนที่ได้จากการป้อนด้วยการใช้ลูปอีกครั้ง

ตัวอย่าง Use Case ในโลกจริง

1. การเก็บข้อมูลคะแนนสอบ

ในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย การเก็บข้อมูลคะแนนสอบของนักเรียนมักมีการใช้ Array 2D สามารถช่วยเก็บข้อมูลได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่นในวารสารคะแนนสอบที่มีผู้เรียนหลายคน โดยใช้ Array 2D สำหรับแสดงคะแนนในแต่ละวิชา

2. การจัดการข้อมูลพนักงาน

องค์กรสามารถใช้ Array 2D เพื่อจัดเก็บข้อมูลของพนักงาน เช่น รายชื่อ, ตำแหน่ง, และวันที่เข้าทำงาน โดยใช้แต่ละคอลัมน์จาก Array สำหรับเก็บข้อมูลที่แตกต่างกัน

3. วิเคราะห์ฐานข้อมูล

สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลใหญ่ เช่น ข้อมูลการขายสินค้า โปรแกรม COBOL สามารถใช้ Array 2D เก็บข้อมูลเพื่อทำให้การเข้าถึงข้อมูลและการประมวลผลข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็ว

สรุป

การใช้งาน Array 2D ในภาษา COBOL เป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการจัดการข้อมูลในรูปแบบตาราง การเข้าใจการประกาศและการเข้าถึงข้อมูลใน Array จะช่วยให้คุณสามารถเขียนโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพได้

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมภาษาต่างๆ อย่าง COBOL หรือเทคโนโลยีอื่นๆ สามารถสมัครเรียนที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) เพื่อพัฒนาทักษะด้านโปรแกรมมิ่งของคุณ รองเท้าไปสู่การเป็นนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญได้!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง