การใช้งาน Functional Programming ในภาษา COBOL แบบง่าย ๆ

การเรียนรู้การโปรแกรมแบบ Functional Programming (FP) อาจทำให้รู้สึกเป็นเรื่องยากสำหรับนักพัฒนา, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำงานกับภาษา COBOL ที่มีลักษณะเชิงขั้นตอน (Procedural). ถึงแม้ COBOL จะถูกออกแบบมาให้เน้นที่การประมวลผลข้อมูล แต่เรายังสามารถนำแนวคิดจาก FP มาใช้ในภาษา COBOL เพื่อทำให้โค้ดของเรามีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Functional Programming คืออะไร?

Functional Programming คือ Paradigm การเขียนโปรแกรมที่มุ่งเน้นการใช้ฟังก์ชันเป็นหน่วยหลักในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งจะทำให้โค้ดมีความสามารถในการใช้ฟังก์ชันแบบบริสุทธิ์ (Pure Functions) ไม่ทำให้เกิด Side Effects และสนับสนุนการทำงานแบบ Immutable Data Structures.

ทำไมต้องศึกษา Functional Programming ใน COBOL?

แม้ว่า COBOL จะไม่ใช่ภาษา FP แต่คุณสามารถนำเอาแนวคิดในการใช้ฟังก์ชันและการแยกการประมวลผลข้อมูลได้ โดยการนำฟังก์ชันเข้ามาช่วยแบ่งแยกตรรกะ ทำให้โค้ดของคุณมีความชัดเจน สามารถดูแลรักษาได้ง่าย และลดการเกิดข้อผิดพลาดได้ นอกจากนี้ยังมีการเขียนโค้ดในลักษณะที่สามารถทดสอบได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างโค้ดการใช้งาน Functional Programming ใน COBOL

มาดูตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชันใน COBOL กันหน่อยว่าเราสามารถเขียนโค้ดอย่างไรให้มีความคล้ายคลึงกับแนวทางของ FP ได้:

        IDENTIFICATION DIVISION.
       PROGRAM-ID. FunctionalExample.

       DATA DIVISION.
       WORKING-STORAGE SECTION.
       01  NUMBERS       PIC 9(3) OCCURS 5.
       01  RESULT        PIC 9(3) VALUE 0.
       01  I             PIC 9(3) VALUE 1.

       PROCEDURE DIVISION.
       MAIN-LOGIC.
           MOVE 1 TO NUMBERS(1)
           MOVE 2 TO NUMBERS(2)
           MOVE 3 TO NUMBERS(3)
           MOVE 4 TO NUMBERS(4)
           MOVE 5 TO NUMBERS(5)

           PERFORM VARYING I FROM 1 BY 1 UNTIL I > 5
               ADD NUMBERS(I) TO RESULT
           END-PERFORM

           DISPLAY "Sum of numbers: " RESULT
           STOP RUN.

อธิบายการทำงานของโค้ด

ในโค้ดตัวอย่างด้านบน เราได้สร้างโปรแกรมที่คำนวณผลรวมของตัวเลข 5 จำนวน ซึ่งอยู่ในตัวแปร `NUMBERS`. เราใช้การวนรอบ (PERFORM VARYING) เพื่อประมวลผลแต่ละจำนวนและนำไปบวกกับ `RESULT`.

ในแง่ FP นี้ เราสามารถมองว่า `RESULT` คือข้อมูลที่ได้จากการ “ประมวลผล” ฟังก์ชันที่แสดงถึงการรวมค่าของตัวเลขต่าง ๆ. ถึงแม้ว่าในพื้นฐานแล้วเรายังใช้แนวทางแบบขั้นตอน แต่เราสามารถจินตนาการว่าโค้ดนี้มีคุณสมบัติที่จะนำไปสู่การเขียนในเชิงฟังก์ชันได้.

Use Case ในโลกจริง

ในโลกความเป็นจริง, เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) จะพบว่าการใช้งาน COBOL ยังคงมีความสำคัญในระบบต่าง ๆ เช่น ธนาคารและการประกันภัย ที่ยังคงใช้งานโค้ด COBOL ในการประมวลผลธุรกรรม.

เช่น หากเรานำ FP มาประยุกต์ใช้กับระบบที่ต้องประมวลผลค่าธรรมเนียมการถอนเงิน เราสามารถสร้างฟังก์ชันที่รับค่าธรรมเนียมแต่ละประเภทและส่งกลับผลรวมที่ถูกต้อง โดยสามารถสร้างฟังก์ชันได้เช่นนี้:

        FUNCTION-ID. CalculateFee.
       LINKAGE SECTION.
       01  WITHDRAWAL-AMOUNT        PIC 9(6).
       01  TRANSACTION-FEE           PIC 9(3).
       01  FINAL-FEE                 PIC 9(3).

       PROCEDURE DIVISION USING WITHDRAWAL-AMOUNT TRANSACTION-FEE FINAL-FEE.
           IF WITHDRAWAL-AMOUNT > 5000 THEN
               MOVE 100 TO FINAL-FEE
           ELSE
               MOVE 50 TO FINAL-FEE
           END-IF
           ADD FINAL-FEE TO TRANSACTION-FEE
           EXIT PROGRAM.

สรุป

การนำ Functional Programming มาใช้ใน COBOL ก็เหมือนกับการนำหนทางใหม่ ๆ มาสู่การพัฒนา เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น AI และ Big Data มีความต้องการสูงในตลาดงาน ดังนั้นการศึกษาความรู้ด้านการโปรแกรม โดยเฉพาะในภาษา COBOL ในลักษณะ FP จะช่วยให้คุณโดดเด่นมากยิ่งขึ้นในสายงานนี้

หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้การโปรแกรมอย่างฟังก์ชันและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน COBOL ได้จริง เชิญชวนมาเรียนที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ที่เรามีหลักสูตรการสอนที่หลากหลายเพื่อเตรียมความพร้อมให้คุณเข้าสู่สายงาน IT อย่างมั่นใจ!

ติดต่อเรา

หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนการสอน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ EPT ยินดีให้บริการทุกท่าน!

การเรียนรู้การโปรแกรมไม่ใช่เรื่องยากหากเริ่มต้นจากพื้นฐานที่ถูกต้อง!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง