การใช้งาน Nested If-Else ใน COBOL แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง Code และอธิบายการทำงาน

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับการใช้งาน nested if-else ในภาษา COBOL ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาซอฟต์แวร์องค์กร โดยเฉพาะในระบบบัญชีหรือระบบที่มีการจัดการข้อมูลจำนวนมาก

พื้นฐานของ Nested If-Else

ก่อนจะลงลึกให้เข้าใจถึงการทำงานของ nested if-else เรามาทบทวนคำสั่ง if-else กันก่อน ในภาษา COBOL คำสั่ง if คือใช้เพื่อเช็คเงื่อนไขและทำการตัดสินใจ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง จะทำการรันบล็อคโค้ดในบรรทัดถัดไป แต่ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ ก็จะไปทำบล็อคโค้ดที่อยู่ใน else

การใช้ nested if-else คือการวาง if-else ภายใน if-else ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถจัดการกับเงื่อนไขที่ซับซ้อนได้

โครงสร้างพื้นฐานของ Nested If-Else ใน COBOL

 IF condition1
    IF condition2
        statement-1
    ELSE
        statement-2
ELSE
    statement-3

ตัวอย่างการใช้งาน Nested If-Else ใน COBOL

มาลองดูตัวอย่างของการใช้ nested if-else ใน COBOL กันนะครับ สมมติว่าเรามีโปรแกรมที่ต้องเช็คคะแนนนักเรียน และจะทำการพิมพ์ข้อความที่แตกต่างออกไปเบื้องต้นเป็นดังนี้:

- ถ้าคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 80 จะพิมพ์ว่า "เกรด A"

- ถ้าคะแนนอยู่ระหว่าง 70 ถึง 79 จะพิมพ์ว่า "เกรด B"

- ถ้าคะแนนอยู่ระหว่าง 60 ถึง 69 จะพิมพ์ว่า "เกรด C"

- ถ้าคะแนนต่ำกว่า 60 จะพิมพ์ว่า "ตก"

โค้ดตัวอย่าง

        IDENTIFICATION DIVISION.
       PROGRAM-ID. GradeCheck.

       DATA DIVISION.
       WORKING-STORAGE SECTION.
       01 Student-Score         PIC 99.

       PROCEDURE DIVISION.
           DISPLAY 'Enter Student Score: '.
           ACCEPT Student-Score.

           IF Student-Score >= 80
               DISPLAY 'Grade A'
           ELSE
               IF Student-Score >= 70
                   DISPLAY 'Grade B'
               ELSE
                   IF Student-Score >= 60
                       DISPLAY 'Grade C'
                   ELSE
                       DISPLAY 'Fail'
                   END-IF
               END-IF
           END-IF.

           STOP RUN.

อธิบายการทำงาน

โค้ดในตัวอย่างนี้เริ่มต้นด้วยการประกาศโปรแกรมที่ชื่อว่า `GradeCheck` ในส่วนของ `DATA DIVISION` เราจะเก็บคะแนนนักเรียนในตัวแปร `Student-Score` ซึ่งมีชนิดข้อมูลเป็นเลขจำนวนเต็ม 2 หลัก (PIC 99)

ใน `PROCEDURE DIVISION` เราจะขอรับค่าคะแนนจากผู้ใช้และเก็บไว้ใน `Student-Score` หลังจากนั้นเราจะใช้ nested if-else ในการเช็คนั้น หากคะแนน ≥ 80, จะพิมพ์ "Grade A" หากไม่นั้น จะเช็ครหัสคะแนนต่อไปเรื่อยๆ จนถึง "Fail"

Use Case ในโลกจริง

การใช้งาน nested if-else แบบนี้สามารถนำไปใช้ในหลากหลายโปรแกรม หากนำไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลนักเรียนในโรงเรียน หรือแม้กระทั่งในองค์กร όπουพนักงานต้องถูกประเมินผลงาน ตามเกณฑ์ที่แตกต่างกัน

ยกตัวอย่างเช่น ระบบซอฟต์แวร์การตรวจสอบข้อมูลการจ้างงานของพนักงานในองค์กร โดยถ้าพนักงานทำผลงานที่ดี จะให้โบนัสพิเศษ แต่ถ้าผลงานอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย จะได้โบนัสน้อยกว่าหรืออาจจะไม่ได้โบนัสเลย ซึ่งการใช้ nested if-else จะช่วยในการจัดการเงื่อนไขที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น

ทำไมถึงควรเรียนภาษา COBOL ที่ EPT

การเขียนโปรแกรมใน COBOL อาจดูเหมือนเก่าไปบ้างในยุคปัจจุบัน แต่ไม่ควรมองข้ามว่า COBOL ยังมีความสำคัญอย่างมากในระบบองค์กรที่ยังใช้มันอยู่ ทำให้มีโอกาสในการทำงานในองค์กรที่ต้องการบุคลากรที่มีความสามารถในการเขียนโปรแกรมในภาษา COBOL

ที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) เรามีหลักสูตรที่เข้าใจง่าย สำหรับผู้เริ่มต้นจนถึงผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะใน COBOL โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาษาโปรแกรมที่ใช้ในธุรกิจ คุณจะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรม COBOL ที่มีประสิทธิภาพ

ผู้ที่สนใจเรียนรู้โปรแกรมมิ่ง COBOL สามารถสมัครเรียนได้ที่ EPT โดยเราพร้อมให้ความเข้าใจในทุกรายละเอียด สร้างทักษะที่เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจ.

การเขียนโปรแกรมไม่เพียงแต่ต้องการความรู้ แต่ยังต้องการความเข้าใจในตรรกะ และการแยกแยะปัญหาอย่างมีเหตุผล มาเริ่มลงมือกันที่ EPT กันเถอะ!

---

หวังว่าบทความนี้จะทำให้ท่านมีความเข้าใจในพื้นฐานการใช้งาน nested if-else ใน COBOL และสามารถนำก๊อดกไปปรับใช้ในโปรแกรมของท่านได้ ขอให้คุณโชคดีในการเรียนรู้ค่ะ!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง