การเขียนโปรแกรมคือการสร้างอาณาจักรของตัวเองด้วยภาษาที่มนุษย์สามารถสื่อสารกับเครื่องจักรได้ หนึ่งในวิธีการนี้คือการสร้าง Hash Table ด้วยตัวเอง ซึ่งในภาษา Python นั้นสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Library ที่มีอยู่แล้ว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการสร้าง Hash Table ด้วยเทคนิคของ Seperate Chaining ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงการนำไปใช้งานจริงกันค่ะ
Hash Table เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ใช้ในการจัดการข้อมูลเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการค้นหา โดยข้อมูลทุกอันจะมี "กุญแจ" (key) และ "ค่า" (value) โดยที่กุญแจจะถูกแปลงผ่านฟังก์ชัน Hash เพื่อกำหนดตำแหน่งในโครงสร้างข้อมูล
Seperate Chaining เป็นวิธีหนึ่งในการจัดการกับการชนของข้อมูล (collision) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่มีมากกว่าหนึ่งกุญแจที่มีค่า hash เหมือนกัน การแก้ไขปัญหาการชนด้วย Seperate Chaining คือการจัดเก็บองค์ประกอบที่ชนกันเหล่านั้นไว้ใน linked list ที่ตำแหน่งเดียวกันในตาราง hash
ตัวอย่างการใช้งาน Hash Table
1. การเพิ่มข้อมูล (Insertion):
2. การค้นหาข้อมูล (Search):
3. การลบข้อมูล (Deletion):
Hash Table มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในโลกการพัฒนาซอฟต์แวร์ ตัวอย่างเช่น:
- การจัดการ Database: เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูลด้วยกุญแจ.
- Networking: ใช้ในการจัดเก็บและค้นหาแคชสำหรับที่อยู่ IP หรือ URL.
- Caching: เก็บข้อมูลที่จะถูกเรียกใช้บ่อยๆ เพื่อลด latency ในการเรียกข้อมูล.
การเขียนโปรแกรมไม่ใช่เพียงแค่การเรียนรู้เฉพาะภาษาและเทคนิคต่างๆ แต่ยังรวมถึงการสร้างโซลูชันที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ เราที่ EPT มีหลักสูตรที่จะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญการใช้งานทักษะเหล่านี้อย่างมืออาชีพ และนี่เป็นเพียงรสชาติอันน้อยนิดของโลกโปรแกรมมิ่งที่รอคุณอยู่ค่ะ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM