การทำงานกับข้อมูลที่ต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นเรื่องจำเป็นในหลายๆ แอปพลิเคชันของโลกปัจจุบัน ซึ่ง Doubly Linked List คือโครงสร้างข้อมูลแบบหนึ่งที่ช่วยให้การจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพใน JavaScript ในบทความนี้ เราจะสำรวจเทคนิคพิเศษสำหรับการจัดการข้อมูลด้วย Doubly Linked List และยกตัวอย่างโค้ดสำหรับ operations หลักๆ เช่น insert, insertAtFront, find และ delete พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียโดยละเอียด ท้ายที่สุด เราจะชวนคุณไปเรียนรู้การเขียนโค้ดแบบมืออาชีพที่ EPT ซึ่งจะช่วยให้คุณควบคุมและจัดการข้อมูลด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Doubly Linked List
Doubly Linked List มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ทำให้มันโดดเด่นกว่า Array หรือ Singly Linked List นั่นคือแต่ละโหนดไม่เพียงแต่มีลิ้งค์ไปยังโหนดถัดไปเท่านั้น แต่ยังมีลิ้งค์อีกอันหนึ่งที่ชี้กลับไปยังโหนดก่อนหน้า เสมือนดั่งถนนที่มีทางเดินสองแถว ทำให้การเดินทางในทั้งสองทิศทางนั้นง่ายและรวดเร็ว
Insertion (การแทรกข้อมูล)
การแทรกข้อมูลลงใน Doubly Linked List นั้นให้อิสระมากกว่า Array เพราะไม่จำเป็นต้องเลื่อนข้อมูลเพื่อทำการแทรกข้อมูลใหม่ เราสามารถเพิ่มโหนดในตำแหน่งใดๆ ของ list ก็ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อโหนดรอบข้างมากนัก
ตัวอย่างโค้ดสำหรับ insertion:
function insert(data) {
let newNode = new Node(data);
if (!head) {
head = newNode;
tail = newNode;
} else {
tail.next = newNode;
newNode.previous = tail;
tail = newNode;
}
}
Insert At Front (การแทรกข้อมูลที่ด้านหน้า)
การแทรกข้อมูลที่ด้านหน้าของ list คือการเพิ่มโหนดใหม่ให้กลายเป็น head ใหม่ของ list ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาต่ำกว่าการแทรกในตำแหน่งอื่นๆ
ตัวอย่างโค้ดสำหรับ insertAtFront:
function insertAtFront(data) {
let newNode = new Node(data);
if (!head) {
head = newNode;
tail = newNode;
} else {
head.previous = newNode;
newNode.next = head;
head = newNode;
}
}
Finding (การค้นหาข้อมูล)
การค้นหาข้อมูลใน Doubly Linked List นั้นทำได้สะดวกขึ้น เพราะเราสามารถเริ่มต้นค้นหาจากทั้งสองทิศทางได้ ทำให้หากเรารู้ว่าข้อมูลอยู่ใกล้กับด้านใดมากกว่า ก็สามารถเริ่มค้นหาจากทิศทางนั้นได้เลย
ตัวอย่างโค้ดสำหรับ find:
function find(data) {
let current = head;
while (current) {
if (current.data === data) {
return current;
}
current = current.next;
}
return null;
}
Deletion (การลบข้อมูล)
การลบข้อมูลออกจาก Doubly Linked List ก็มีความได้เปรียบ เพราะด้วยการที่แต่ละโหนดมีลิ้งค์ถึงโหนดก่อนหน้า ทำให้หลังจากลบข้อมูลที่โหนดใดโหนดหนึ่ง เราสามารถหาตำแหน่งของโหนดที่ต้องการค้นหาได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างโค้ดสำหรับ delete:
function delete(data) {
let current = head;
while (current) {
if (current.data === data) {
if (current === head && current === tail) {
head = null;
tail = null;
} else if (current === head) {
head = head.next;
head.previous = null;
} else if (current === tail) {
tail = tail.previous;
tail.next = null;
} else {
current.previous.next = current.next;
current.next.previous = current.previous;
}
return true;
}
current = current.next;
}
return false;
}
ข้อดีของ Doubly Linked List
- ความยืดหยุ่นสูง: สามารถใส่หรือลบโหนดจากทุกๆ ตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วโดยไม่กระทบต่อข้อมูลส่วนอื่น - การเดินทางได้ทั้งสองทาง: เอื้อต่อการเดินทางและการค้นหาทั้งจากด้านหน้าและด้านหลังข้อเสียของ Doubly Linked List
- ความซับซ้อน: การเขียนโค้ดให้ดำเนินงานได้อย่างถูกต้องต้องใช้ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง - การใช้พื้นที่: เนื่องจากต้องเก็บ reference สำหรับโหนดก่อนหน้าและถัดไป จะทำให้ใช้พื้นที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับ Singly Linked Listผู้เรียนที่สนใจด้านการเขียนโค้ดและต้องการพัฒนาทักษะในการจัดการข้อมูลอย่างมืออาชีพ สามารถเข้าร่วมหลักสูตรที่ EPT ที่พร้อมสอนคุณไม่เพียงแค่โค้ดตัวอย่าง แต่ยังช่วยให้หลักการวางโครงสร้างข้อมูลและการสร้างโปรแกรมที่ประสิทธิภาพสูง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนักพัฒนาที่มีความสามารถไปกับเราในการเรียนลักษณะนี้กันเถอะ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM