ภาษา Go หรือ Golang เป็นภาษาที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Google ซึ่งมีความสามารถที่โดดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพและระบบการจัดการ concurrent ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายทำให้ Go เป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่นักพัฒนา อีกทั้งยังได้รับความเชื่อถือในระดับองค์กรเช่น Docker, Kubernetes และ Terraform ต่างก็ใช้ Go ในการพัฒนา
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงอีกหนึ่งหัวข้อพื้นฐานแต่สำคัญของการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Go คือ การประกาศและใช้ Pointers (พอยน์เตอร์) ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากในกรณีที่เราต้องการจัดการหน่วยความจำและเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรม
Pointers คือ ตัวแปรที่เก็บที่อยู่ของตัวแปรอื่น พูดง่ายๆ คือ มันเป็นตัวบ่งชี้หรือชี้ไปยังที่ที่ข้อมูลถูกจัดเก็บอยู่ในหน่วยความจำ ความสามารถนี้ช่วยให้เราสามารถเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องการปรับเปลี่ยนข้อมูลขนาดใหญ่โดยไม่ต้องคัดลอกข้อมูลทั้งหมด
ในการประกาศ Pointer ใน Go เราต้องใช้สัญลักษณ์ `*` ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทข้อมูลที่ Pointer จะอ้างถึง เช่น
var p *int
ในตัวอย่างนี้ `p` เป็น Pointer ที่เก็บที่อยู่ของข้อมูลประเภท `int` นอกจากนี้เราสามารถใช้ฟังก์ชัน `new` เพื่อสร้าง Pointer ที่ชี้ไปยังพื้นที่หน่วยความจำที่ใหม่ได้:
p := new(int)
`new(int)` เป็นการสร้างตัวแปรประเภท `int` ซึ่ง Pointer `p` จะชี้ไปยังตัวแปรนี้
สมมุติว่าเรามีตัวแปรและเราต้องการให้ Pointer ชี้ไปยังตัวแปรนั้น เราสามารถใช้งานได้ดังนี้:
var x int = 10
var p *int = &x
ในกรณีนี้ `&x` คือการดึงที่อยู่ของตัวแปร `x` มาเก็บที่ Pointer `p` แล้วเราสามารถเข้าถึงและแก้ไขค่าของตัวแปรที่ Pointer ชี้ไปได้โดยใช้เครื่องหมาย `*` ซึ่งเป็นการ dereference Pointer:
*p = 20
หลังจากการสั่ง `*p = 20` ค่าในตัวแปร `x` จะถูกเปลี่ยนแปลงเป็น 20 โดยอัตโนมัติ
func increment(x *int) {
*x++
}
func main() {
num := 100
increment(&num)
fmt.Println(num) // Output: 101
}
ในตัวอย่างนี้ ฟังก์ชัน `increment` ใช้ Pointer เพื่อปรับค่าในหน่วยความจำของตัวแปรที่ถูกส่งผ่าน
2. การจัดการโครงสร้างข้อมูลที่ซับซ้อน: Pointers เหมาะสำหรับการจัดการโครงสร้างข้อมูลที่มีความซับซ้อน เช่น Linked Lists หรือ Trees ซึ่งต้องการการเชื่อมโยงข้อมูลในรูปแบบของ nodes
ถึงแม้ว่า Pointers จะมีประสิทธิภาพ แต่การใช้ Pointers นั้นก็มีความเสี่ยง หลักๆคือการเกิด null pointer dereference ที่อาจทำให้โปรแกรม crash ได้ ดังนั้น จำเป็นต้องตรวจสอบว่าตัวแปร Pointer ไม่ใช่ `nil` ก่อนการใช้งาน
if p != nil {
// use *p
}
การใช้ Pointers อย่างปลอดภัยจำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งในเรื่องการจัดการหน่วยความจำ และมีความคุ้นเคยกับการเขียนโปรแกรมที่ประสิทธิภาพสูง
Pointers เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับภาษา Go ในการบริหารจัดการหน่วยความจำและประสิทธิภาพ หากคุณเพียงแต่เริ่มต้นเรียนรู้การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Go หรือ K อยากเพิ่มพูนความเข้าใจในทางเชิงลึก การนำ Pointers มาใช้จะเปิดเส้นทางใหม่ๆในการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมและการใช้งาน Pointers ในการพัฒนาระบบ สามารถพิจารณาเข้าร่วมหลักสูตรของเราได้ที่ EPT เรายินดีที่จะให้คำปรึกษาและพาทุกท่านเข้าสู่โลกของวิศวกรรมคอมพิวเตอร์อย่างมืออาชีพ
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com