สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

Object-Oriented Programming

OOP ในภาษา Go - การใช้ Methods ใน Go OOP ในภาษา Go - การผูก Methods กับ Struct OOP ในภาษา Go - การใช้ Interface ใน Go OOP ในภาษา Go - การประกาศและใช้ Interface OOP ในภาษา Go - Empty Interface (interface{}) OOP ในภาษา Go - Type Assertion กับ Interface OOP ในภาษา Go - การใช้ Type Switch กับ Interface OOP ในภาษา Go - การใช้ Polymorphism ใน Go OOP ในภาษา Go - การทำ Composition แทน Inheritance OOP ในภาษา Go - การใช้ Embedded Types แทนการสืบทอด OOP ในภาษา Go - การทำ Dependency Injection ใน Go JavaScript OOP - การสร้าง Objects ด้วย Constructors JavaScript OOP - การใช้ Prototypes ใน JavaScript JavaScript OOP - การใช้ Class ใน JavaScript (ES6) JavaScript OOP - การสร้าง Methods ใน Class JavaScript OOP - การใช้ Inheritance และ Extends ใน Class JavaScript OOP - การใช้ Encapsulation และ Private Variables JavaScript OOP - การใช้ Static Methods ใน Class JavaScript OOP - การใช้ This Keyword ใน JavaScript JavaScript OOP - การทำงานกับ Getter และ Setter OOP ใน JavaScript - OOP คืออะไรใน JavaScript OOP ใน JavaScript - Object ใน JavaScript คืออะไร OOP ใน JavaScript - วิธีการสร้าง Object ใน JavaScript (Object Literal) OOP ใน JavaScript - การเข้าถึงและเปลี่ยนแปลงค่าของ Object Properties OOP ใน JavaScript - การลบ Properties ใน Object OOP ใน JavaScript - การใช้ this Keyword ใน Object OOP ใน JavaScript - การสร้าง Method ใน Object OOP ใน JavaScript - การใช้ Factory Functions ในการสร้าง Object OOP ใน JavaScript - การสร้าง Object ด้วย Constructor Function OOP ใน JavaScript - การใช้ new Keyword เพื่อสร้าง Object OOP ใน JavaScript - ขอบเขตของ this ใน Constructor Function OOP ใน JavaScript - การใช้ Object.assign() เพื่อคัดลอก Object OOP ใน JavaScript - การสร้าง Object ด้วย Object.create() OOP ใน JavaScript - การใช้ in และ hasOwnProperty สำหรับตรวจสอบ Properties OOP ใน JavaScript - Prototype คืออะไรใน JavaScript OOP ใน JavaScript - การใช้ Prototypal Inheritance ใน JavaScript OOP ใน JavaScript - การเข้าถึง Prototype Chain OOP ใน JavaScript - การใช้ Object.getPrototypeOf() และ Object.setPrototypeOf() OOP ใน JavaScript - การเพิ่ม Methods ใน Prototype OOP ใน JavaScript - Constructor Property คืออะไร OOP ใน JavaScript - ความต่างระหว่าง Prototype Inheritance และ Classical Inheritance OOP ใน JavaScript - Encapsulation ใน OOP คืออะไร OOP ใน JavaScript - การซ่อนข้อมูลด้วย Private Properties OOP ใน JavaScript - การใช้ Getter และ Setter ใน Object Class ใน JavaScript (ES6) - การสร้าง Class ใน JavaScript Class ใน JavaScript (ES6) - Constructor Method ใน Class คืออะไร Class ใน JavaScript (ES6) - การสร้าง Object จาก Class ด้วย new Class ใน JavaScript (ES6) - การใช้ Methods ใน Class Class ใน JavaScript (ES6) - การใช้ this Keyword ภายใน Class Class ใน JavaScript (ES6) - Inheritance ใน Class คืออะไร Class ใน JavaScript (ES6) - การใช้ extends ใน Class สำหรับการสืบทอด Class ใน JavaScript (ES6) - การใช้ super() ใน Class Class ใน JavaScript (ES6) - การ Override Methods ใน Subclass Class ใน JavaScript (ES6) - Static Method ใน Class คืออะไร Class ใน JavaScript (ES6) - การใช้ Static Properties และ Methods ใน Class Class ใน JavaScript (ES6) - ความแตกต่างระหว่าง Instance และ Static Methods Class ใน JavaScript (ES6) - การใช้ instanceof สำหรับตรวจสอบประเภทของ Object Class ใน JavaScript (ES6) - การใช้ Polymorphism ใน OOP Class ใน JavaScript (ES6) - Abstract Classes และ Interface ใน OOP Class ใน JavaScript (ES6) - การสร้าง Interface ใน JavaScript (แนวคิด) Class ใน JavaScript (ES6) - การใช้ Composition แทนการสืบทอด (Favor Composition over Inheritance) Class ใน JavaScript (ES6) - การสร้างและจัดการ Private Methods ใน Class Class ใน JavaScript (ES6) - Encapsulation ใน Class Class ใน JavaScript (ES6) - ข้อดีและข้อเสียของการใช้ Class ใน JavaScript Advanced OOP Concepts ใน JavaScript - การใช้ Mixin ในการผสาน Methods ระหว่าง Objects Advanced OOP Concepts ใน JavaScript - การใช้ Object.freeze() เพื่อทำให้ Object ไม่เปลี่ยนแปลง Advanced OOP Concepts ใน JavaScript - การทำ Deep Copy ของ Object ด้วย Recursion Advanced OOP Concepts ใน JavaScript - การใช้ Proxy เพื่อควบคุมการทำงานของ Object Advanced OOP Concepts ใน JavaScript - การใช้ Reflect ในการจัดการกับ Object และ Functions Advanced OOP Concepts ใน JavaScript - ความแตกต่างระหว่าง OOP และ Functional Programming ใน JavaScript

OOP ในภาษา Go - การทำ Dependency Injection ใน Go

 

ภาษา Go หรือ Golang เป็นภาษาที่พัฒนาโดย Google เพื่อแก้ไขปัญหาการจัดการของระบบขนาดใหญ่ มันถูกออกแบบมาให้เป็นภาษาที่มีประสิทธิภาพ ทำงานร่วมกันได้ง่าย และใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม เมื่อเราพูดถึง OOP (Object-Oriented Programming) ในภาษา Go หัวข้อที่มักถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมากคือ Dependency Injection (DI) เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ช่วยให้การเขียนโค้ดสามารถจัดการกับ dependencies ระหว่างคอมโพเนนต์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และช่วยในด้านการทดสอบ (testing) การบำรุงรักษา (maintenance) และการขยายระบบ (scalability) อีกด้วย

 

พื้นฐานของ OOP ใน Go

แม้ว่าภาษา Go จะไม่ได้รองรับ OOP แบบเต็มรูปแบบเหมือนกับภาษาอื่น ๆ เช่น Java หรือ C# แต่มันก็มีวิศวกรรมบางอย่างที่สอดคล้องกับแนวคิด OOP ซึ่งประกอบด้วย:

- Structures (structs): ตัวแปรที่ประกอบด้วยฟิลด์หลาย ๆ ตัวที่มีชนิดข้อมูลต่างกัน มันช่วยในการเก็บข้อมูลและการทำ abstraction

ตัวอย่างเช่น:


type Animal struct {
    Name string
    Age  int
}

- Methods: ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับ struct ที่สามารถสร้างเพื่อให้ struct ทำงานกับข้อมูลภายในของมันได้

func (a *Animal) Speak() string {
    return "I'm an animal, my name is " + a.Name
}

 

Dependency Injection คืออะไร?

Dependency Injection (DI) คือแนวคิดการออกแบบที่ทำให้โปรแกรมสามารถแก้ไขการพึ่งพา (dependencies) ระหว่างคอมโพเนนต์หรือโมดูลได้อย่างยืดหยุ่น มันทำให้คอมโพเนนต์ไม่ต้องจัดการเองว่าต้องใช้ dependencies ใด แต่กลับทำให้เหล่านั้นถูกจัดการภายนอกแล้วส่งมาให้

ประโยชน์ของ DI คือ:

1. ทำให้โค้ดทดสอบง่ายขึ้น: โดยการแยก dependencies ออกจากกัน เราสามารถทดสอบหน่วย (unit test) แต่ละชิ้นได้โดยไม่ต้องอาศัย dependencies ของมัน 2. การบำรุงรักษาง่าย: ช่วยในการเปลี่ยนแปลงหรือแทนที่ dependencies โดยไม่กระทบกับโค้ดหลัก 3. รองรับการขยายระบบ: สามารถเพิ่มคอมโพเนนต์ใหม่หรือสนับสนุน dependencies ที่แตกต่างกันได้โดยง่าย

 

การ Implement Dependency Injection ใน Go

ในภาษา Go เราสามารถใช้การ Dependency Injection ได้ด้วยการใช้ interfaces และการส่งผ่าน dependencies ผ่าน constructor functions และ methods มาดูตัวอย่างเดิมแต่เพิ่ม DI เข้าไป:


type Speaker interface {
    Speak() string
}

type Animal struct {
    Name string
}

func (a *Animal) Speak() string {
    return "I'm an animal, my name is " + a.Name
}

type Greeter struct {
    Speaker Speaker
}

func (g *Greeter) Greet() {
    fmt.Println(g.Speaker.Speak())
}

func main() {
    myAnimal := &Animal{Name: "Buddy"}
    greeter := &Greeter{Speaker: myAnimal}
    greeter.Greet()
}

ในตัวอย่างนี้ Greeter ไม่จำเป็นต้องรู้ว่า Speaker ของมันคืออะไร มันแค่รู้ว่ามี method ชื่อ `Speak()` ที่อยู่นอกตัวโค้ด คุณสามารถใส่ `Animal` ที่มี method นั้นได้ ส่งผลให้โค้ดดัดแปลงได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อเราต้องการจะเปลี่ยน Speaker เป็นอย่างอื่น

 

การใช้ Dependency Injection กับ Testing

DI เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากเมื่อพูดถึงการ testing. ลองนึกภาพสถานการณ์ที่คุณมี Speaker ที่ต้องเชื่อมต่อกับ API หรือกระบวนการที่ใช้ทรัพยากร ตอนนี้เราสามารถ mock นั้นออกได้เพื่อสร้างการทดสอบที่รวดเร็ว


type MockSpeaker struct {
}

func (m *MockSpeaker) Speak() string {
    return "Mock response"
}

func main() {
    mockSpeaker := &MockSpeaker{}
    greeter := &Greeter{Speaker: mockSpeaker}
    greeter.Greet() // จะพิมพ์ว่า "Mock response"
}

ในตัวอย่างนี้ `MockSpeaker` ถูกใช้แทนสิ่งที่อาจจะเป็น Speaker จริง ซึ่งช่วยให้ทดสอบโค้ดโดยไม่ต้องพึ่งพาภายนอก

 

บทสรุป

DI เป็นแนวคิดที่สำคัญและทรงพลังในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ มันทำให้โค้ดสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างยืดหยุ่น ทดสอบได้ง่าย และรักษาได้ง่ายขึ้น ภาษา Go รองรับหลักการนี้ผ่านการใช้ interfaces และทำให้เรามีความยืดหยุ่นในการออกแบบระบบ

หากคุณสนใจในหัวข้อนี้เพิ่มเติมและต้องการลงลึกในแนวคิด OOP และ Dependency Injection พร้อมกับการประยุกต์ใช้งานในโปรเจกต์จริง การศึกษาที่ EPT สามารถเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะในด้านนี้มากขึ้น

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/


Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android


บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา