# การเขียน Methods ใน Class ของ JavaScript OOP
JavaScript นับเป็นหนึ่งในโปรแกรมมิ่งภาษาที่มีบทบาทสำคัญในวงการพัฒนาแอปพลิเคชันบนเว็บ ด้วยความที่ภาษานี้มีความยืดหยุ่นและสามารถใช้งานได้กับทั้งฝั่งของเซิร์ฟเวอร์และไคลเอนต์ JavaScript ที่พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องได้เปิดทางให้โปรแกรมเมอร์สามารถเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming: OOP) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการใช้ classes และ methods ที่เป็นส่วนสำคัญในแนวคิดของ OOP
OOP เป็นแนวคิดการเขียนโปรแกรมที่จัดการกับข้อมูลในรูปแบบของวัตถุ (Objects) ซึ่งแต่ละวัตถุนั้นจะมีคุณสมบัติ (Properties) และพฤติกรรม (Methods) ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่มันเป็น วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถสร้างโค้ดที่มีโครงสร้างที่ดีและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ง่าย
Classes นั้นเป็นบลูพิมพ์ (Blueprint) ที่ใช้สร้าง Objects ช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถจัดการกับกลุ่มของข้อมูลและฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อนในรูปแบบที่เป็นระบบมากขึ้น ซึ่งใน JavaScript Classes ได้รับการแนะนำตั้งแต่ ECMAScript 6 (ES6) ที่ทำให้การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุมีความสะดวกสบายและเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
Method คือฟังก์ชันภายใน Class ที่ใช้ร่วมกันระหว่างวัตถุที่สร้างจาก Class นั้น ช่วยให้ออบเจกต์สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลภายในของมันได้
การสร้าง Method ภายใน Class
การสร้าง Method ภายใน Class ใน JavaScript ทำได้ง่ายและวิธีการก็คล้ายคลึงกับการสร้างฟังก์ชันทั่ว ๆ ไป แต่จะเขียนไว้ภายใน Class และไม่จำเป็นต้องใช้คีย์เวิร์ด `function`
ตัวอย่างเช่น เรามี Class ที่ชื่อว่า `Person` ซึ่งมี property ชื่อ `name` และ Method ชื่อ `greet` ดังนี้:
class Person {
constructor(name) {
this.name = name;
}
greet() {
console.log(`Hello, my name is ${this.name}.`);
}
}
const person1 = new Person('John');
person1.greet(); // Output: Hello, my name is John.
ในตัวอย่างข้างต้น `greet` เป็น method ที่เมื่อนำไปเรียกใช้ผ่านวัตถุที่ถูกสร้างจาก class `Person` จะทำหน้าที่แสดงคำทักทายพร้อมกับชื่อตามที่ถูกกำหนดไว้ในตอนที่ออบเจกต์ถูกสร้างขึ้น
Usecase ของ Methods ใน OOP
การสร้าง Methods ภายใน Class ช่วยให้คุณจัดการกับการทำงานที่ซับซ้อนของออบเจกต์ได้ดีขึ้น โดยตัวอย่างของ usecase ที่เหมาะสมในการใช้ Methods คือการใช้งานร่วมกับข้อมูลที่เป็นความลับและต้องการการป้องกันเข้าถึง
เช่นการใช้งานในระบบจัดการบัญชีผู้ใช้ ที่ต้องมีการเข้ารหัสหรือเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับ จำเป็นต้องมี Methods ที่ทำหน้าที่เฉพาะในการเข้าถึงและการจัดการข้อมูลเหล่านี้ เช่น:
class UserAccount {
constructor(username, password) {
this.username = username;
this.passwordHash = this.hashPassword(password);
}
hashPassword(password) {
// จำลองการเข้ารหัส
return `hashed_${password}`;
}
validatePassword(password) {
return this.passwordHash === this.hashPassword(password);
}
}
const user1 = new UserAccount('user123', 'mypassword');
console.log(user1.validatePassword('wrongpassword')); // Output: false
console.log(user1.validatePassword('mypassword')); // Output: true
ในตัวอย่างนี้ `UserAccount` เป็น Class ที่มี Method `hashPassword` และ `validatePassword` สำหรับการเข้ารหัสและการตรวจสอบความถูกต้องของรหัสผ่าน
JavaScript OOP โดยการใช้ Methods ภายใน Class เปิดประตูให้เราเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพและจัดการง่ายขึ้น เมื่อเรามีความเข้าใจในพื้นฐานของ OOP และ Classes การใช้ Methods จะทำให้โค้ดของเรามีโครงสร้างที่อ่านง่ายและนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากขึ้น
ถ้าหากคุณสนใจที่จะพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุใน JavaScript ให้มากขึ้น หรืออยากเรียนรู้เทคนิคอื่น ๆ ในการเขียนโปรแกรม สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากแหล่งเรียนรู้ออนไลน์มากมาย หรือจับตาดูโปรแกรมการเรียนการสอนดี ๆ ที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) ที่จะช่วยพัฒนาความสามารถของคุณในโลกของการเขียนโปรแกรมต่อไป!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM