ในวงการโปรแกรมมิ่ง หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับแนวคิดเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming: OOP) ไม่มากก็น้อย โดยเป็นหนึ่งในหลักการสำคัญที่ใช้ในการออกแบบซอฟต์แวร์เพื่อให้มีโครงสร้างที่เรียบง่ายและปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนได้สะดวก เมื่อพูดถึงภาษา JavaScript ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาที่ได้รับความนิยมสูงสำหรับพัฒนาเว็บไซต์ หลายคนอาจจะสงสัยว่า JavaScript สามารถรองรับ OOP ได้หรือไม่ และมันมีลักษณะอย่างไรในภาษา JavaScript
OOP หรือการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ เป็นรูปแบบการเขียนโปรแกรมที่ใช้ "วัตถุ" (Objects) เป็นฐานการทำงาน ซึ่งวัตถุหมายถึงการรวมกันของข้อมูล (Attributes/Properties) และการทำงาน (Methods) ที่เกี่ยวข้องกัน วัตถุทำให้โปรแกรมมีความยืดหยุ่นและสนับสนุนการพัฒนาที่สามารถขยายได้ง่ายผ่านการใช้ inheritance, encapsulation, และ polymorphism
องค์ประกอบหลักของ OOP
1. Class: แบบแผนหรือแม่พิมพ์ของวัตถุ 2. Object: สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากคลาส ซึ่งสามารถมีคุณสมบัติและวิธีการของตัวเอง 3. Inheritance: การสืบทอดคุณสมบัติและวิธีการจากคลาสหนึ่งไปยังอีกคลาสหนึ่ง 4. Encapsulation: การซ่อนข้อมูลภายใน class และให้มีการเข้าถึงข้อมูลผ่าน methods เท่านั้น 5. Polymorphism: ความสามารถในการใช้ method ที่มีชื่อเดียวกันในหลาย context
JavaScript สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุผ่าน prototype-based mechanism ซึ่งสามารถสร้างและจัดการวัตถุได้โดยไม่ต้องผ่าน class แม้ว่าจริง ๆ แล้ว JavaScript จะมี concept คลาสถูกเพิ่มเข้ามาใน ES6 แล้วก็ตาม
Prototype-based vs Class-based
ใน prototype-based, เราใช้การ clone หรืออ้างอิงคุณสมบัติเพื่อสร้าง object ใหม่ ในขณะที่ class-based นั้นใช้คำสั่ง class และ constructor ในการสร้าง โดย JavaScript สามารถทำงานร่วมกับทั้งสองแนวคิดดังกล่าว
การสร้าง Class ใน JavaScript
class Animal {
constructor(name) {
this.name = name;
}
speak() {
console.log(`${this.name} makes a noise.`);
}
}
let dog = new Animal('Dog');
dog.speak(); // Dog makes a noise.
ในโค้ดนี้เราสร้างคลาส `Animal` ที่มี constructor และ method ชื่อ `speak` ซึ่งเราสามารถสร้าง object ของคลาสนี้ได้ผ่าน `new` keyword
การใช้ Inheritance ใน JavaScript
class Dog extends Animal {
speak() {
console.log(`${this.name} barks.`);
}
}
let dog = new Dog('Rex');
dog.speak(); // Rex barks.
ในตัวอย่างนี้ใช้ `extends` เพื่อให้ `Dog` เป็น subclass ของ `Animal` จึงสามารถ override method `speak()` เพื่อให้ความสามารถจำเพาะของ `Dog` ได้
การเรียนรู้และเข้าใจ OOP เป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการพัฒนาโปรแกรมขนาดใหญ่และซับซ้อน การรู้จักนำเสนอและใช้หลักการ OOP จะช่วยให้คุณเขียนโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นใน JavaScript หรือภาษาอื่น ๆ
ถ้าคุณสนใจในการพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรม หรือต้องการเข้าใจ OOP ในระดับลึกและหลากหลาย เราขอแนะนำให้มาศึกษาที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) สถาบันการสอนที่มุ่งเน้นให้คุณมีทักษะที่มีประสิทธิภาพและการคิดเชิงวิพากษ์ในวงการ IT
ด้วยความรู้และทักษะที่ได้รับ คุณจะมีโอกาสก้าวสู่อาชีพในสาย IT ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM