สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

JSON

Introduction to JSON JSON Full Form: JavaScript Object Notation History of JSON JSON vs XML Structure of JSON JSON Data Types JSON Objects Explained JSON Arrays Explained Key-Value Pairs in JSON JSON String Data Type JSON Number Data Type JSON Boolean Data Type JSON Null Data Type Nested JSON Objects JSON in APIs JSON Schema Overview How to Write JSON JSON File Extensions (.json) JSON Syntax Rules JSON Parsing in JavaScript JSON Stringify in JavaScript How to Use JSON.parse() How to Use JSON.stringify() Escaping Characters in JSON JSON Comments (and why they are not allowed) JSON in Web Development Sending JSON Data with HTTP Requests Receiving JSON Responses in APIs REST APIs and JSON JSON in AJAX Requests Working with JSON in Node.js How to Read a JSON File Saving Data in JSON Format How to Validate JSON JSONLint for Validation JSON Pretty Print JSON Minification JSON vs YAML JSON and JavaScript Compatibility JSON and Python Integration Working with JSON in Python (json module) JSON in Java (Jackson and GSON) JSON in C++ (RapidJSON and nlohmann/json) JSON in C# (Json.NET) JSON in PHP (json_encode and json_decode) How to Fetch JSON Data from APIs Fetching JSON in Python (requests module) Fetching JSON in JavaScript (fetch API) Fetching JSON in jQuery JSON Serialization JSON Deserialization JSON Data Interchange Common Errors in JSON Syntax Handling Large JSON Files Streaming JSON Data JSON Pagination Techniques JSON as a Configuration Format JSON in Cloud Storage JSON and MongoDB BSON vs JSON in MongoDB JSON Web Tokens (JWT) Security Considerations with JSON Cross-Origin Resource Sharing (CORS) and JSON JSON Schema Validation Creating a JSON Schema Required Fields in JSON Schema JSON Schema Property Types JSON Schema Examples Benefits of JSON Schema JSONPath: Querying JSON Data JSON Data Transformation Comparing Two JSON Objects Sorting JSON Data Flattening JSON Structures JSON Merge Techniques JSON in NoSQL Databases JSON in Relational Databases Storing JSON in MySQL JSON Functions in MySQL JSON Functions in PostgreSQL JSON Functions in SQL Server JSON and Elasticsearch Advantages of Using JSON Limitations of JSON JSON and GraphQL JSONP (JSON with Padding) JSON and Local Storage in Browsers JSON and Cookies JSON and Session Storage Importing and Exporting JSON Nested vs Flattened JSON Structures JSON Best Practices Debugging JSON Errors JSON Performance Optimization Real-Time Data with JSON Microservices and JSON JSON Versioning JSON in IoT Applications JSON for Data Exchange in Mobile Apps The Future of JSON

JSON and GraphQL

 

 

JSON และ GraphQL: การเชื่อมต่อข้อมูลในยุคดิจิทัล

ในโลกดิจิทัลสมัยใหม่ การสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างโปรแกรมหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้เครื่องมือหรือวิธีการในการสื่อสารข้อมูลระหว่างกันจึงต้องมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากในวงการโปรแกรมเมอร์หนีไม่พ้น JSON และ GraphQL ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงข้อมูลเบื้องต้นของทั้ง JSON และ GraphQL วิธีการทำงาน เปรียบเทียบความแตกต่าง รวมถึงตัวอย่างการใช้งานเชิงปฏิบัติ

 

JSON: ข้อมูลแบบเจาะลึกและง่ายต่อการเข้าใจ

JSON ย่อมาจาก JavaScript Object Notation เป็นรูปแบบการแทนข้อมูลที่ออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก ง่ายต่อการอ่านและเขียนสำหรับมนุษย์ และง่ายต่อการแยกเป็นข้อมูลสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ แม้ว่า JSON จะมีพื้นฐานมาจาก JavaScript แต่มันสามารถใช้ได้กับเกือบทุกภาษาการเขียนโปรแกรม

โครงสร้างของ JSON

JSON ประกอบด้วยคู่คีย์และค่า โดยคีย์มักจะเป็นสตริง ขณะที่ค่าสามารถเป็นได้ทั้งสตริง เลขตรรกะ อาเรย์ และวัตถุ ตัวอย่างเช่น:


{
    "name": "John Doe",
    "age": 30,
    "isStudent": false,
    "courses": ["Math", "Science"],
    "address": {
        "street": "123 Main St",
        "city": "Bangkok"
    }
}

ข้อดีของ JSON

- อ่านง่าย: เนื่องจาก JSON ใช้รูปแบบที่คล้ายกับภาษาโปรแกรมที่คนคุ้นเคยจึงง่ายต่อการอ่านและตรวจสอบความถูกต้อง - ขนาดเล็ก: ทำให้การส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายมีประสิทธิภาพ

 

GraphQL: การเข้าถึงข้อมูลแบบที่คุณต้องการ

GraphQL เป็นภาษาที่ถูกพัฒนาโดย Facebook ในปี 2012 เพื่อใช้ในการตอบปัญหาการดึงข้อมูลจาก API ที่ซับซ้อน มันช่วยให้ผู้พัฒนา API สามารถกำหนดโครงสร้างการดึงข้อมูลที่ชัดเจนและปรับได้ตามความต้องการของลูกค้า

การทำงานของ GraphQL

GraphQL เป็น query language ที่ช่วยให้คุณสามารถร้องขอข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่น กล่าวคือ คุณสามารถระบุได้เองว่าข้อมูลอะไรที่ต้องการจากเซิร์ฟเวอร์ ผ่านการเขียน query ตัวอย่างการเขียน query ด้วย GraphQL:


{
    user(id: "1") {
        name
        email
        courses {
            title
            grade
        }
    }
}

ข้อดีของ GraphQL

- การดึงข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง: คุณสามารถระบุข้อมูลที่ต้องการได้ การดึงข้อมูลที่ไม่จำเป็นจึงไม่มี - การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ลดจำนวนการเรียก API ที่ไม่จำเป็น

 

การใช้ JSON และ GraphQL ร่วมกัน

เนื่องด้วย JSON เป็นรูปแบบของข้อมูลที่ทั้งมนุษย์และเครื่องสามารถอ่านได้ง่าย ขณะที่ GraphQL เป็นภาษาที่ช่วยให้การร้องขอข้อมูลเป็นไปอย่างยืดหยุ่น การใช้ทั้งสองร่วมกันสามารถทำให้การสื่อสารข้อมูลระหว่าง frontend และ backend ของระบบมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการใช้งานจริง

สมมติว่าเรามีระบบการเรียนรู้ออนไลน์ที่ใช้ GraphQL API เพื่อให้ผู้ใช้สามารถร้องขอข้อมูลคอร์สทั้งหมดที่พวกเขาลงทะเบียน และทั้งคู่จะส่งข้อมูลในรูปแบบ JSON:

GraphQL Query:


{
    courses(userId: "5") {
        title
        description
        lessons {
            name
            duration
        }
    }
}

JSON Response:


{
    "data": {
        "courses": [
            {
                "title": "Introduction to Programming",
                "description": "Learn the basics of programming.",
                "lessons": [
                    {
                        "name": "Variables and Types",
                        "duration": "30 min"
                    },
                    {
                        "name": "Control Structures",
                        "duration": "45 min"
                    }
                ]
            }
        ]
    }
}

การเลือกใช้ JSON และ GraphQL นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของระบบและปัญหาที่ต้องการจะแก้ไข อย่างไรก็ดี การเข้าใจทั้งสองเป็นพื้นฐานการเขียนโปรแกรมที่สำคัญในยุคดิจิทัลนี้ การเรียนรู้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

การเข้าใจและประยุกต์ใช้ JSON และ GraphQL ให้เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้เป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่สนใจลงลึกในโลกของการเขียนโปรแกรม สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากหลักสูตรที่ออกแบบเพื่อการเข้าใจที่ชัดเจนและปฏิบัติได้จริงที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) ซึ่งรับรองว่าคุณจะได้พบกับการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยความสนุกและท้าทายครบถ้วนกันไปในทุกมิติของการเขียนโปรแกรม!

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/


Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android


บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา