# การแปลงข้อมูล JSON: เครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในยุคดิจิทัล
ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่รวดเร็วและสะดวก การใช้ไฟล์ JSON หรือ JavaScript Object Notation นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งเราคุ้นเคยกับการได้เห็นข้อมูลนี้ในการพัฒนาโปรแกรมเว็บและแอปพลิเคชันของเราทุกวัน แต่การทำความเข้าใจและแปลงข้อมูล JSON อย่างมีประสิทธิภาพยังคงเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมมืออาชีพ
JSON ย่อมาจาก JavaScript Object Notation เป็นรูปแบบข้อมูลที่ใช้แสดงข้อมูลที่มีโครงสร้างในรูปแบบที่มนุษย์สามารถอ่านและเขียนได้ง่าย รวมถึงให้ง่ายต่อการแปลงและใช้งานด้วยเครื่องจักรหรือโปรแกรม JSON ถูกนำมาใช้เป็นมาตรฐานสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเซิร์ฟเวอร์และเว็บแอปพลิเคชันที่สร้างจาก JavaScript แต่ JSON ไม่ได้จำกัดเฉพาะ JavaScript เพราะปัจจุบันมันถูกใช้ในหลายภาษาอื่นเช่น Python, Java, และ C# เป็นต้น
โครงสร้างของ JSON อยู่บนคู่ของ "key" และ "value" ที่เรียกว่า "properties" สามารถเก็บข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่:
- Object - คลังข้อมูลที่ใช้คู่อักษรกับค่า - Array - คลังชุดข้อมูลที่สามารถเก็บข้อมูลหลายชนิดในลำดับ - Values - สามารถเป็นตัวอักษร, ตัวเลข, boolean, null, object หรือ arrayตัวอย่างโครงสร้าง JSON:
{
"name": "John Doe",
"age": 30,
"isStudent": false,
"courses": ["Math", "Science"],
"address": {
"street": "123 Main St",
"city": "Anytown"
}
}
การแปลงข้อมูล JSON
หมายถึงการเอาข้อมูล JSON ที่อยู่ในรูปแบบเดิมไปแปรเปลี่ยนเป็นรูปแบบหรือโครงสร้างใหม่ที่เหมาะสมกับวิธีการใช้ของเราในโปรแกรม หรือ JSON transformations เพื่อให้ได้ข้อมูลที่พร้อมใช้ต่อไปในเชิงประมวลผลหรือแสดงผลกรณีการใช้งาน 1: การรวมข้อมูล
มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องดึงข้อมูลหลายๆ ชุดจาก API หลากหลาย และต้องการรวมข้อมูลเหล่านั้นเป็นชุดเดียว ตัวอย่างเช่น การดึงข้อมูลจากหลายแหล่งและแปลงเป็นรูปแบบ JSON เดียวเพื่อใช้งานต่อทันที
ตัวอย่างโค้ด Python สำหรับรวม JSON สองชุด:
import json
json1 = '{"name": "John", "age": 23}'
json2 = '{"city": "Anytown", "phone": "123-456-7890"}'
data1 = json.loads(json1)
data2 = json.loads(json2)
# ร่วมข้อมูล
combined_data = {**data1, **data2}
print(json.dumps(combined_data, indent=2))
กรณีการใช้งาน 2: การจัดรูปแบบข้อมูล
บางครั้งการเรียงลำดับหรือกรองข้อมูลใน JSON ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เราได้ข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น อย่างเช่น การกำหนดให้แสดงเฉพาะข้อมูลของนักเรียนที่มีเกรดสูงกว่า 80
ตัวอย่างโค้ด JavaScript สำหรับกรองข้อมูล:
const students = [
{ "name": "Alice", "grade": 90 },
{ "name": "Bob", "grade": 75 },
{ "name": "Charlie", "grade": 85 }
];
const topStudents = students.filter(student => student.grade > 80);
console.log(JSON.stringify(topStudents, null, 2));
การทำความเข้าใจและแปลงข้อมูล JSON เป็นสิ่งที่จำเป็นในโลกของการพัฒนาโปรแกรมสมัยใหม่ เนื่องจาก JSON เป็นรูปแบบที่มีความยืดหยุ่นและสามารถใช้งานได้หลากหลายในหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสายงานใด ไม่ว่าเว็บ, ไอที, หรือแอปพลิเคชันมือถือ การมีความเข้าใจในเรื่อง JSON นั้นย่อมช่วยให้ชีวิตในการพัฒนาโปรแกรมของคุณง่ายขึ้น อย่าลืมฝึกฝนและพัฒนาทักษะนี้ต่อไป
เรียนเขียนโปรแกรมและพัฒนาทักษะเพิ่มเติมที่ EPT หนึ่งในโรงเรียนชั้นนำที่สามารถช่วยคุณก้าวไปสู่ความเป็นมืออาชีพในสายงานนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM