JSON (JavaScript Object Notation) เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเซิร์ฟเวอร์และเว็บแอปพลิเคชัน เนื่องจากความเรียบง่ายในการอ่านและการใช้งาน บทความนี้จะสำรวจเกี่ยวกับ JSON Schema ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล JSON โดยเราจะมุ่งเน้นไปที่ "Property Types" คือประเภทของข้อมูลที่อยู่ใน JSON Schema
JSON Schema คือข้อกำหนดมาตรฐานที่ใช้สำหรับการกำหนดโครงสร้างของเอกสาร JSON โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ข้อมูล JSON สามารถตรวจสอบความถูกต้องและประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายขึ้น การใช้ JSON Schema เป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนา API โดยมันจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเอ็นพอยต์จะคืนค่าและรับข้อมูลในรูปแบบที่คาดหวังเสมอ
ใน JSON Schema, property types คือวิธีการที่เราจะบรรยายถึงประเภทของข้อมูลในแต่ละฟิลด์ของ JSON สามารถกำหนด property types หลัก ๆ ดังนี้:
1. String - สำหรับชุดตัวอักษร
{
"type": "string"
}
2. Number - สำหรับจำนวนหรือค่าทศนิยม
{
"type": "number"
}
3. Integer - สำหรับจำนวนเต็ม
{
"type": "integer"
}
4. Boolean - สำหรับค่าจริงหรือเท็จ
{
"type": "boolean"
}
5. Array - สำหรับกลุ่มของค่า
{
"type": "array",
"items": {
"type": "string"
}
}
6. Object - สำหรับกลุ่มของคู่ระหว่างคีย์และค่า
{
"type": "object",
"properties": {
"name": {
"type": "string"
},
"age": {
"type": "integer"
}
}
}
7. Null - สำหรับไม่มีค่า
{
"type": "null"
}
ลองจินตนาการว่าเรากำลังสร้าง API สำหรับระบบการจองตั๋วภาพยนตร์ ซึ่งรับข้อมูลที่มีฟิลด์ ได้แก่ "ชื่อลูกค้า" (Customer Name), "รอบฉาย" (Showtime), และ "จำนวนตั๋ว" (Ticket Count) เราสามารถใช้ JSON Schema ในการตรวจสอบข้อมูลที่เข้ามาดังนี้:
{
"type": "object",
"properties": {
"customerName": {
"type": "string"
},
"showtime": {
"type": "string",
"format": "date-time"
},
"ticketCount": {
"type": "integer",
"minimum": 1
}
},
"required": ["customerName", "showtime", "ticketCount"]
}
ในตัวอย่างนี้ เรากำหนดให้ "customerName" เป็น string, "showtime" เป็น string ในรูปแบบวันที่-เวลา, และ "ticketCount" เป็นจำนวนเต็มที่ต้องไม่น้อยกว่า 1 พร้อมกับระบุว่าฟิลด์ทั้งหมดต้องมีข้อมูล (required) การใช้ JSON Schema นี้สามารถที่จะช่วยลดปัญหาการส่งข้อมูลผิดรูปแบบเข้าสู่ระบบได้
JSON Schema เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในโลกที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างรวดเร็ว เราสามารถใช้ JSON Schema แม้กระทั่งในการพัฒนาแอปพลิเคชันขนาดเล็ก เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและคุณภาพให้กับระบบ
หากคุณสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมและต้องการพัฒนาทักษะด้านโปรแกรมมิ่ง ความรู้ในการใช้งาน JSON Schema และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ลองพิจารณาศึกษาต่อที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ซึ่งมีหลากหลายหลักสูตรในการเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีและการเขียนโปรแกรมของคุณ
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM