JSON หรือ JavaScript Object Notation เป็นรูปแบบการแทนข้อมูลที่เรียบง่ายและอ่านง่าย ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ในการสื่อสารข้อมูลระหว่างเครื่องลูกข่ายและเครื่องแม่ข่ายในแอปพลิเคชันพื้นฐานทางเว็บ เมื่อพิจารณาว่า JSON มีความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์เว็บ หรือแม้กระทั่งในงานด้าน Big Data การทำความเข้าใจกฎไวยากรณ์ JSON จึงถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมทุกคน
- คู่ค่านี้จะถูกเก็บใน object ซึ่งล้อมด้วยเครื่องหมายปีกกา `{}` เช่น
{
"name": "John",
"age": 30,
"city": "New York"
}
2. คีย์ต้องเป็นสตริง
- คีย์ใน JSON จะต้องเป็นสตริง (string) และจะต้องล้อมด้วยเครื่องหมายคำพูดคู่ `" "`
3. ค่าว่าง- ใน JSON ค่า `null` หมายถึงค่าว่าง ซึ่งใช้เมื่อไม่ต้องการกำหนดค่าใด ๆ
4. อาร์เรย์ JSON เขียนในรูปของรายการ- อาร์เรย์จะเริ่มต้นและสิ้นสุดด้วยเครื่องหมายปีกกาเหลี่ยม `[]` และค่าสามารถเป็นข้อมูลประเภทใดก็ได้ เช่น
{
"fruits": ["Apple", "Banana", "Cherry"]
}
5. ค่าตัวเลขจะต้องไม่ขึ้นต้นด้วยศูนย์
- ใน JSON ค่าเช่น `002` ถือว่าไม่ถูกต้อง ค่าทางตัวเลขที่ถูกต้องต้องไม่มีเลขศูนย์ที่ขึ้นต้น ยกเว้นการแทนค่าศูนย์เป็น `0`
6. ไม่มีคอมเม้นท์ใน JSON- ซึ่งแตกต่างจากภาษาการเขียนโปรแกรมหลายภาษา JSON ไม่สนับสนุนการมีคอมเม้นท์ ดังนั้นสำคัญที่ต้องแน่ใจว่าไฟล์ JSON ที่คุณสร้างสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยคอมเม้นท์
7. การใช้ทศนิยม- JSON รองรับการใช้ตัวเลขทศนิยม โดยทศนิยมสามารถเขียนได้เช่นเดียวกับในภาษาการเขียนโปรแกรมทั่วไป เช่น
{
"temperature": 23.45
}
JSON มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา API ต่าง ๆ เช่น RESTful API โดย JSON มักใช้เป็นรูปแบบในการส่งและรับข้อมูลระหว่างเครื่องแม่ข่ายและเครื่องลูกข่าย ตัวอย่างการเรียกใช้ API ที่ส่งคืนข้อมูลเป็น JSON สามารถแสดงได้ดังนี้
ตัวอย่างโค้ด
สมมติว่าเรามี API ที่ให้ข้อมูลผู้ใช้งานและเราต้องการรับและอ่านข้อมูลนี้ในภาษาจาวาสคริปต์ เราสามารถใช้ฟีเจอร์ของเบราว์เซอร์เช่น Fetch API เพื่อดึงข้อมูล JSON และประมวลผลได้ดังนี้
fetch('https://api.example.com/user')
.then(response => response.json())
.then(data => {
console.log('User Data:', data);
})
.catch(error => console.error('Error fetching user data:', error));
ในตัวอย่างนี้ เราจึงเห็นได้ว่า JSON ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูลเพื่อให้สามารถนำไปประมวลผลในโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
JSON ถือเป็นกรองข้อมูลที่สำคัญในยุคเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะง่ายต่อการใช้งานและสามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มและภาษาโปรแกรมที่หลากหลาย ฉะนั้นการทำความเข้าใจในกฎไวยากรณ์ของ JSON จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักพัฒนาโปรแกรม
ถ้าคุณสนใจในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรมหรือเทคนิคการใช้ JSON ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ อย่าลืมพิจารณาเข้าร่วมโปรแกรมการศึกษาด้านการเขียนโปรแกรมที่ EPT ที่เรามีหลักสูตรครอบคลุมและอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM