ในยุคที่แอปพลิเคชันบนเว็บและมือถือได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ การรักษาความปลอดภัยข้อมูลและการบริหารจัดการการยืนยันตัวตนของผู้ใช้กลายเป็นเรื่องสำคัญ JSON Web Tokens (JWT) เป็นวิธีหนึ่งที่จัดการเรื่องเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ JWT โดยเริ่มจากพื้นฐานไปจนถึงการใช้งานจริง พร้อมตัวอย่างโค้ดที่จะช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้น
JSON Web Tokens (JWT) เป็นมาตรฐานเปิดสำหรับรักษาความปลอดภัยในข้อมูลที่มีการส่งผ่านไปยังเครือข่ายในรูปแบบ JSON โดย JWT จะประกอบด้วยสามส่วนหลักได้แก่ Header, Payload และ Signature ซึ่งจะถูกรวมและเข้ารหัสเพื่อให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้
- Header: เป็นส่วนที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะของโทเค็น เช่น อัลกอริธึมที่ใช้เข้ารหัส - Payload: เป็นส่วนที่เก็บข้อมูลจริง เช่น ข้อมูลผู้ใช้ หรือค่า claim ต่างๆ ซึ่งสามารถเป็นข้อมูลที่มีโครงสร้างอะไรก็ได้ - Signature: ใช้สำหรับยืนยันว่า JWT นั้นถูกสร้างขึ้นจากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยใช้การเข้ารหัสร่วมกับ secret keyJWT มีการใช้งานที่หลากหลายในระบบ เช่น การยืนยันตัวตนผู้ใช้ (Authentication) การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเซิร์ฟเวอร์ และการปกป้อง API เป็นต้น
เมื่อผู้ใช้ทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบแล้วเซิร์ฟเวอร์จะสร้าง JWT ขึ้นมาและส่งกลับไปยังไคลเอนต์ ไคลเอนต์จะเก็บโทเค็นนี้ไว้และใช้ในการร้องขอข้อมูลหรือเข้าถึงบริการต่างๆ จากเซิร์ฟเวอร์ โดยที่ทุกครั้งที่มีการร้องขอ ไคลเอนต์จะส่ง JWT ไปด้วยในส่วนของ Header
เมื่อเซิร์ฟเวอร์ได้รับ JWT เซิร์ฟเวอร์จะทำการตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของโทเค็น โดยการถอดรหัส Signature ด้วย secret key หากข้อมูลถูกต้อง เซิร์ฟเวอร์จะดำเนินการตามคำร้องขอของไคลเอนต์
ข้อดี:
- ขนาดเล็กและเบา: เนื่องจาก JWT มีขนาดเล็กและเบา สามารถใช้ได้ง่ายทั้งใน HTTP Header และ URL query parameter - การกระจายศูนย์: JWT สามารถใช้ในระบบที่ต้องการการควบคุมแบบไร้ศูนย์กลาง (stateless) ได้. - ใช้งานง่าย: สามารถใช้ในหลากหลายภาษาและแพลตฟอร์ม เนื่องจากมีการสนับสนุนมาตรฐาน JSONข้อเสีย:
- หมดอายุ: เมื่อ JWT ถูกสร้างแล้วไม่สามารถยกเลิกได้ ต้องรอจนกว่าโทเค็นจะหมดอายุหรือใช้เทคนิคการจัดการโทเค็นเช่น Refresh Token - ขนาดของ Payload: การใส่ข้อมูลลงใน Payload มากเกินไปอาจทำให้ JWT มีขนาดใหญ่และไม่เหมาะสมในการส่งผ่านเครือข่าย
เพื่อให้เข้าใจการใช้งาน JWT ลองพิจารณาตัวอย่างการสร้างและการใช้ JWT ใน Node.js ก่อนอื่นคุณต้องติดตั้งไลบรารี `jsonwebtoken` ดังนี้:
npm install jsonwebtoken
จากนั้น ลองโค้ดตัวอย่างด้านล่างนี้:
const jwt = require('jsonwebtoken');
// สร้าง JWT
function createToken(user) {
const payload = {
username: user.username,
role: user.role
};
const secret = 'your-256-bit-secret';
const token = jwt.sign(payload, secret, { expiresIn: '1h' });
return token;
}
// ตรวจสอบ JWT
function verifyToken(token) {
const secret = 'your-256-bit-secret';
try {
const decoded = jwt.verify(token, secret);
console.log("Decoded payload:", decoded);
return decoded;
} catch (err) {
console.error("Invalid token:", err);
return null;
}
}
const user = {
username: 'john_doe',
role: 'admin'
};
// สร้างและตรวจสอบ JWT
const myToken = createToken(user);
console.log("Created JWT:", myToken);
const verifiedPayload = verifyToken(myToken);
การใช้ JWT ช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันมีความยุ่งยากน้อยลงในการจัดการการยืนยันตัวตนและการรักษาความปลอดภัย เช่น คุณสามารถทำให้ API ของคุณปลอดภัยโดยการตรวจสอบ JWT ในแต่ละคำร้องขอที่เข้ามา สามารถตอบสนองต่อคำขอได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอาศัยการติดต่อฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบสถานะการล็อกอิน
การทำความเข้าใจและเลือกใช้ JWT ให้เหมาะสมกับแอปพลิเคชันของคุณจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้กับข้อมูลของผู้ใช้งานได้มากขึ้น และหากคุณสนใจที่จะเข้าใจเรื่องนี้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น แอปพลิเคชันหรือ API ของคุณจะมีความปลอดภัยยิ่งขึ้นหากศึกษาเกี่ยวกับ JWT อย่างลึกซึ้งและนำมาผสมผสานกับเทคนิคการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ
จบสิ้นบทความนี้ หวังว่าคุณจะได้ความรู้เรื่อง JWT และพร้อมที่จะลองนำไปประยุกต์ใช้ในโครงการของคุณเอง การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการพัฒนาทักษะด้วยการเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ จะช่วยให้คุณกลายเป็นนักพัฒนาที่มีความสามารถและทันสมัย หากคุณต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในการเขียนโปรแกรม โปรดพิจารณาเข้าเรียนที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) ซึ่งมีหลักสูตรที่ครอบคลุมและอัปเดตเสมอเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพของคุณ
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM