ภาษา Ruby เป็นหนึ่งในภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในหมู่นักพัฒนา และมีการใช้งานที่กว้างขวาง ทั้งในงานพัฒนาเว็บ แอปพลิเคชัน และงานด้านอื่น ๆ หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจของ Ruby ก็คือการสร้างฟังก์ชัน (Function) ที่ช่วยให้เราสามารถเขียนโค้ดที่มีความเป็นระเบียบ เรียบง่าย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในบทความนี้เราจะมาทบทวนพื้นฐานของฟังก์ชันใน Ruby พร้อมตัวอย่างโค้ด และยกตัวอย่าง Use Case ในชีวิตจริง เพื่อให้คุณเข้าใจและเห็นประโยชน์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ฟังก์ชันใน Ruby เป็นกลุ่มของโค้ดที่ถูกตั้งชื่อ โดยสามารถถูกเรียกใช้งานได้จากที่ไหนก็ได้ในโปรแกรม ฟังก์ชันช่วยให้โค้ดของเรามีโครงสร้างที่ชัดเจน และช่วยลดการทำซ้ำของโค้ดเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การสร้างฟังก์ชันใน Ruby
การสร้างฟังก์ชันใน Ruby เราจะใช้คีย์เวิร์ด `def` เพื่อประกาศฟังก์ชัน จากนั้นตามด้วยชื่อฟังก์ชัน และใส่โค้ดที่ต้องการให้ทำงานภายใน block ของฟังก์ชัน โดยมีรูปแบบดังนี้:
ตัวอย่างโค้ด
ลองมาทำความเข้าใจกับตัวอย่างง่ายๆ กัน เราจะสร้างฟังก์ชันที่รับค่าตัวเลข 2 ตัว และให้ผลลัพธ์เป็นการบวกกันดังนี้:
ในโค้ดด้านบน เราได้ประกาศฟังก์ชันชื่อ `add_numbers` ซึ่งรับพารามิเตอร์สองตัว คือ `number1` และ `number2` จากนั้นเราก็ทำการบวกเลขทั้งสองและส่งผลลัพธ์กลับโดยใช้คำสั่ง `return`
ผลลัพธ์ที่ได้
เมื่อเราเรียกใช้ฟังก์ชัน `add_numbers` และส่งค่าตัวเลข 5 และ 10 เข้าไป ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็น:
ฟังก์ชันไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการทำงานทางคณิตศาสตร์เท่านั้น ฟังก์ชันยังมีประโยชน์ในหลายๆ สถานการณ์ เช่น:
- การประมวลผลข้อมูล: ถ้าคุณทำงานกับข้อมูลจำนวนมาก การสร้างฟังก์ชันเพื่อประมวลผลข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณค่าเฉลี่ย การหาค่ามากสุด หรือน้อยสุด ก็ทำให้โค้ดของคุณมีความเป็นระเบียบและอ่านง่ายขึ้น - การจัดการเข้าถึง API: หากคุณต้องทำงานกับ APIs โดยต้องสอบถามข้อมูลเป็นประจำ การสร้างฟังก์ชันที่เรียกใช้งาน APIs จะช่วยให้คุณสามารถทำซ้ำในการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้นตัวอย่างเช่น ลองดูฟังก์ชันที่ใช้ในการแสดงราคาสินค้าในร้านค้าออนไลน์:
ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็น:
การใช้ฟังก์ชันใน Ruby ยังมีความสามารถอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น:
- ฟังก์ชันแบบรับค่ากลับ (Return Value): ฟังก์ชันใน Ruby สามารถคืนค่าผลลัพธ์กลับไปยังที่เรียกใช้ได้ เราสามารถใช้ผลลัพธ์นี้ให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ - ค่าดีฟอลต์ (Default Values): คุณสามารถกำหนดค่าที่จะส่งคืนในกรณีที่ไม่มีการส่งค่ามายังฟังก์ชันอีกด้วย เช่น:
สรุป
การใช้ฟังก์ชันในภาษา Ruby ช่วยให้การเขียนโปรแกรมมีความเป็นระเบียบ และทำให้โค้ดของคุณสามารถดำเนินการได้หลาย ๆ อย่างอย่างมีประสิทธิภาพ โค้ดที่ใช้ฟังก์ชันจะอ่านง่ายขึ้นและสามารถดูแลรักษาได้ง่ายกว่าโค้ดที่ไม่ได้จัดการให้เป็นระเบียบ
หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้การเขียนโปรแกรมอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็น Ruby หรือภาษาอื่น ๆ เราขอแนะนำ EPT (Expert-Programming-Tutor) ซึ่งเป็นสถาบันการเรียนรู้ที่มีวิธีการสอนที่ดิจิตอล รับรองว่าคุณจะเข้าใจและสามารถเขียนโปรแกรมได้อย่างมืออาชีพในไม่ช้า!ฟังก์ชันเป็นสิ่งที่ผู้พัฒนาโปรแกรมทุกคนควรรู้จัก เริ่มเรียนรู้ และพัฒนาทักษะของคุณตั้งแต่วันนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM