การใช้งาน if statement ในภาษา Ruby แบบง่าย ๆ พร้อมตัวอย่าง CODE และอธิบายการทำงาน

ทำความรู้จักกับ if statement

คำสั่ง if statement ใน Ruby มีหน้าที่หลักในการตรวจสอบเงื่อนไขที่กำหนด ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง (true) โปรแกรมจะทำงานตามที่เราสั่งไว้ในบล็อกของ if statement นั่นเอง ซึ่งมันทำให้โปรแกรมเราสามารถตัดสินใจทำงานในทางเลือกต่าง ๆ ได้!

โครงสร้างพื้นฐานของ if statement

โครงสร้างพื้นฐานของ if statement ใน Ruby มีดังนี้:

 if condition
  # block of code to be executed if the condition is true
elsif another_condition
  # block of code to be executed if the previous condition is false but this one is true
else
  # block of code to be executed if all conditions are false
end

ตัวอย่าง Code

มาดูตัวอย่างการใช้งาน if statement ใน Ruby กันดีกว่า:

 def check_age(age)
  if age < 18
    puts "คุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ"
  elsif age >= 18 && age < 60
    puts "คุณเป็นผู้ใหญ่"
  else
    puts "คุณเป็นผู้สูงอายุ"
  end
end

check_age(17)
check_age(25)
check_age(65)

อธิบายการทำงาน

- ฟังก์ชัน `check_age` รับพารามิเตอร์ `age` ซึ่งเป็นอายุของผู้ใช้

- ถ้าอายุน้อยกว่า 18 ปี โปรแกรมจะพิมพ์ข้อความ "คุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ"

- ถ้าอายุอยู่ระหว่าง 18 ถึง 59 ปี จะพิมพ์ข้อความ "คุณเป็นผู้ใหญ่"

- ถ้าอายุมากกว่า 60 ปี จะพิมพ์ข้อความ "คุณเป็นผู้สูงอายุ"

ตัวอย่าง Use Case ในโลกจริง

การใช้งาน if statement นั้นสามารถนำไปใช้ได้ในหลายละหลายกรณี เช่น:

ตัวอย่าง Code การตรวจสอบสิทธิการเข้าถึง

นี่คือตัวอย่าง code ที่ใช้ if statement ตรวจสอบสิทธิการเข้าถึง:

 def check_access(role)
  if role == "admin"
    puts "ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบผู้ดูแล!"
  elsif role == "user"
    puts "ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบผู้ใช้งาน!"
  else
    puts "คุณไม่มีสิทธิเข้าถึงระบบ!"
  end
end

check_access("admin")
check_access("user")
check_access("guest")

การอธิบายการทำงาน

- ฟังก์ชัน `check_access` รับพารามิเตอร์ `role` ซึ่งเป็นบทบาทของผู้ใช้งาน

- หากบทบาทเป็น "admin" โปรแกรมจะแจ้งว่าเข้าใช้ระบบผู้ดูแล

- หากเป็น "user" จะเข้าใช้งานในฐานะผู้ใช้

- หากบทบาทเป็นอื่น ๆ โปรแกรมจะแจ้งว่าไม่มีสิทธิในการเข้าถึงระบบ

สรุป

เป็นที่น่าสนใจว่า `if statement` เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการควบคุมการทำงานของโปรแกรม เราสามารถสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ช่วยให้โปรแกรมของเรามีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น

มาเรียนรู้ไปด้วยกันที่ EPT นะครับ!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง